เทคนิครถยนต์: อัพเกรดระบบเบรก

เทคนิครถยนต์: อัพเกรดระบบเบรก

            ระบบเบรกเป็นระบบสำคัญ มันไม่ช่วยให้รถแรงขึ้น ไม่ได้ช่วยให้รถเกาะถนนดีขึ้น แต่จะช่วยให้รถหยุดได้ดีขึ้น และช่วยเซฟชีวิตและทรัพย์สินได้ อย่าทำให้รถแรงอย่างเดียวแต่ไม่สนใจระบบเบรค การสรรหาเปลี่ยนแผลงอะไรในระบบเบรคต้องแน่ใจว่าเป็นของมีคุณภาพ ใช้งานได้ดี

            ในราคาที่ไม่รุนแรงจนเกินไปนั้น บรรดาเบรคสำหรับชาวยุ่นก็เห็นจะมีตัวเลือกกันหลากหลายไม่ว่าจะเป็นเบรคจากบรรดารถที่มีกำลังสูง ๆ ที่ขายกันในต่างแดนแล้วมีมาจำหน่ายกันตามเชียงกง อย่างเช่น เบรกของ Impreza , Aristo , Skyline , Evo และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งบรรดาลูกสูบเบรกจะมีจำนวนมากขึ้น เพื่อให้มีพื้นที่ในการสร้างแรงกดลงไปบนผ้าเบรก ถ้าซื้อมาแล้วแบบไม่ตรงรุ่นก็ต้องมีการแปลงใส่ แต่ก่อนที่จะแปลงใส่นั้น เรามาดูก่อนว่าซื้อมาแล้วควรจะทำอย่างไรกับมันบ้าง เมื่อของต้องประสงค์มาอยู่ในมือแล้วอย่างแรกเลยคือ นำมาดูชิ้นส่วนภายในหรือทำความสะอาดให้พร้อมใช้งานใหม่โดยนายแบบคราวนี้เป็นชุดเบรกจาก NISSAN Skyline R 33

            เริ่มต้นจากการแยกชุดคาลิเปอร์ออกจากจานเบรก หากเป็นชิ้นที่ไม่ได้ติดมาทั้งดุมจะสามารถแยกชิ้นจานเบรคออกมาจากคาลิเปอร์ได้เลย สิ่งที่ควรสังเกตคือจานเบรกนั้นทีรอยแตกร้าวที่จานหรือไม่ และถ้ามีร้าวเป็นรูปแบบไหน หากเป็นการร้าวที่ผิวหน้าที่ไม่ลึกยังพอรับได้ หากจานเบรกนั้นมีความหนาเยอะ เพียงพอที่จ้างรอยร้าวนั้นออกไปได้ แต่ถ้าเจอประเภทร้าวด้านนอกทะลุไปถึงด้านใน อย่างนี้คงแก้ไขไม่ได้ เพราะหากใช้งานหนักแล้วมันคงแตกออกมาเป็นเสี่ยง ๆ แน่ ส่วนใหญ่จานที่จะแตกร้าวมักจะเป็นจานที่มีการเจาะรูระบายเพิ่มเติมและร้าวส่วนที่เป็นรูนั่นแหละ หากร้าวแค่ผิวหน้าก็จัดการทำความสะอาดแล้วส่งไปโรงกลึงซะ ให้เค้าเจียหน้าออกให้เรียบ แต่ถึงไม่ร้าวก็ควรส่งไปล้างหน้าให้เรียบเช่นกัน เพื่อประโยชน์ในการใช้งาน

            ฝุ่นจากผ้าเบรกเป็นสารที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายควรเปิดจมูกก่อนการทำงาน โดยเฉพาะใครที่ชอบใช้วิธีเป่าลมจะทำให้บรรดาฝุ่นผงฟุ้งกระจายในบรรยากาศทางที่ดีเอาไปล้างด้วยน้ำก่อน แล้วเอาแปรงปัด และเอาลมเป่าให้แห้งอีกทีหนึ่ง มาดูที่คาลิเปอร์เบรคบ้าง ตอนซื้อควรดูให้มีอุปกรณ์มาแบบครบ ๆ หากใครมีมาไม่ครบบางชิ้นส่วนที่มักเป็นส่วนยอดฮิตเวลาหาย เรามีวิธีแก้ไขเดี๋ยวเอาไว้ดูตอนท้าย แต่ไอ้ชิ้นส่วนที่มักจะหายนี้เอาไว้ต่อราคาดีแหละ ตัวคาลิเปอร์นั้นเริ่มจากอันที่ง่ายก่อนก็ได้ ให้ดูที่น็อตหัวสายน้ำมันเบรคที่จะเข้ามาในคาลิเปอร์ ถ้ามีมาด้วยก็จะเป็นเรื่องง่ายหน่อย ถ้าไม่มีมาด้วยต้องดูว่าของเดิมในรถของเราใช้ได้หรือไม่ รูน็อตนี้ให้ดูสภาพเกลียวว่ายังดีอยู่หรือไม่ หากมีน็อตมาด้วยให้ดูแหวนทองแดงกันรั่วว่าดีอยู่หรือเปล่า จากนั้นดูในรูน้ำมันว่าของที่ได้มาเหมาะสมกับน็อตที่เราจะใช้หรือไม่ เพราะบางทีอาจจะมีตาไก่ทองแดงอยู่ข้างใน เพื่อใช้กับน็อตที่มีบ่ารับ แต่หากน็อตที่เราจะใช้ไม่มีบ่ารับ ก็ให้ถอดตาไก่นี้ออกมา วิธีถอดให้ทำความสะอาดแล้วเอาน็อตเกลียวปล่อยขนาดพอดีรูไขเข้าไปแล้วดึงออกเท่านี้ก็เรียบร้อย

            จุดต่อมาที่สังเกตได้ง่ายก็คือ รูระบายน้ำมัน หรือรูสำหรับไล่ลมนั่นเอง ดูว่าอยู่ในสภาพใช้งานได้หรือเปล่า น็อตรูดหรือไม่ และมีการรั่วไหลหรือเปล่า จากนั้นก็ถอดผ้าเบรกมาเพื่อที่จะดูชิ้นส่วนภายใน วิธีถอดอย่างแรกต้องเอาเหล็กสปริงล็อคสลักออกก่อน ตัวเนี้ยแหละที่มักจะมีปัญหาชอบหลุดหาย แต่ถ้าของใครที่หายไปแล้วอย่าตกใจข้ามมันไปก่อน ใช้นิ้วกดสลักให้เลื่อนออกมา จะใช้ไขควงช่วยก็ได้ และใช้คีมดึงสลักออกมาอีกทีหนึ่ง แต่ก่อนจะดึงออกมานั้น ด้านหลังเบรกจะมีแผ่นสปริงกดผ้าเบรค ให้เอามือบังไวก่อนแล้วดึงสลักออกมาไม่อย่างนั้นเดี๋ยวมันดีดกระเด็นเข้าตา

            ทำแบบนี้กับสลักทั้ง 2 ด้านแล้วผ้าเบรกก็จะถอดออกมาได้ แต่ทีนี้ตอนดึงผ้าเบรกออกมาดูให้ดี ๆ เพราะจะมีแผ่นรองกันเสียงอยู่ด้านหลังผ้าเบรค ดูว่าชิ้นไหนวางอย่างไรจะได้ไม่สับสนตอนใส่ จากนั้นก็ดึงผ้าเบรกออกมาทั้ง 2 ชิ้น เอาผ้าเช็ดทำความสะอาดให้หมดจด ถ้าเช็ดไม่ค่อยออกจะใช้น้ำมันเช็ดก็ได้ แต่อย่าเอาน้ำมันไปเช็ดผ้าเบรกนะ เช็ดแค่แผ่นรองกับสลักพอ เมื่อเช็ดเสร็จแล้วมาดูที่ตัวคาลิเปอร์ต่อ ตรวจเช็คบรรดายางกันฝุ่นลูกสูบที่ด้านในว่ามีฉีกขาดหรือไม่ แล้วมีรอยรั่วซึมของน้ำมันหรือเปล่า ถ้ามีล่ะก็ไปเบิกชุดซ่อมได้เลยแล้วก็ดูบรรดาแหวนล็อคยางด้วยว่าอยู่ในสภาพใช้งานได้หรือไม่ แล้วหลุดออกมาก็ใส่เข้าไปซะ ทีนี้ก็ดันลูกสูบกลับเข้าไปให้สุด วิธีดันถ้ามีปากกาจับงานตัวเล็ก ๆ ให้ใช้ปากกาค่อย ๆ บีบลูกสูบกลับเข้าไป แต่ถ้าไม่มีคีมล็อคช่วยได้แต่ต้องระมัดระวังเล็กน้อย อย่าให้พลาดไปโดนยางภายในให้คีมกดบริเวณของลูกสูบอย่ากดที่ยาง ถ้ากลัวภายนอกเป็นรอย ให้หาผ้ามากันตัวเสื้อคาลิเปอร์ไว้หน่อย ตรงจุดนี้มีคำเตือนเช่นกัน การกดลูกสูบนั้นจะทำให้น้ำมันเบรกไหลย้อนกลับ น้ำมันเบรกเป็นสารกันกร่อน ควรหาผ้ามารองซับและเตรียมน้ำมาล้างเจือจาง เมื่อกดลูกสูบเข้าไปแล้วก็เตรียมประกอบกลับ อ้อ..ขัดหน้าผ้าเบรกด้วยกระดาษทรายก็ดีนะ เอากระดาษทรายวางบนพื้นเรียบ คว่ำผ้าเบรกลงให้เนื้อผ้าถูกกับกระดาษออกแรงถูกซักหน่อยล้างหน้าพอประมาณ ก็โอเค เท่านี้ก็ประกอบกลับได้เพื่อเตรียมนำไปใส่รถ

            เมื่อประกอบกลับแล้วใครที่ทำสปริงหายนะหรอ ไม่ยาก จะใช้ลวดพันชั่วคราวก็ได้ แต่มันไม่เท่แถมเซอร์วิสก็ลำบาก ของสิ่งนี้สามารถหาของทดแทนได้โดยใช้กิ๊บล็อคบอดี้รถบังคับ มีขายตามสนามรถบังคับทั่วไป เท่านี้ก็หล่อครบสูตรแล้ว