บางคนอาจคิดว่าสนิมคงต้องเกิดขึ้นมาจากตรงที่สีผุเป็นรอย หรือส่วนที่โดนขูดขีดกระแทก ทำให้สีที่ห่อหุ้มภายนอกหลุดออกไป หรือส่วนที่เป็นเหล็กซึ่งไม่มีการเคลือบด้านนอกด้วยสีต่าง ๆ บ้างก็อาจจะคิดว่ารถยังใหม่อยู่น้องหนิมคงไม่มาถามหาหรอก จะว่าไปแล้วก็ใช่ แต่ถ้าไม่ดูแลรักษาแล้วนังนี่มันอาจจะมาเยือนในเวลาไม่นานแน่นอน
สนิมเกิดจากการทำปฏิกิริยากันกระหว่างออกซิเจนและธาตุเหล็ก โดยจะมีปัจจัยหลัก คือ น้ำหรือความชื้นและออกซิเจนในบรรยากาศ เมื่อเหล็กได้รับความชื้น อิเล็คตรอนในอะตอมของเหล็กจะแตกตัวเป็นอิสระ และเข้าทำปฏิกิริยากับอ๊อกซิเจนจนทำให้เหล็กค่อย ๆ สึกกร่อนเป็นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นอย่างช้า ๆ อาจจะกินเวลายาวนานจนหมดทั้งชิ้น แต่ก็ยังลุกลามไปได้เรื่อย ๆ
การป้องกันจะใช้วัสดุอุปกรณ์ไม่กี่อย่างแถมหาง่ายมาก อย่างกระดาษทราย จาระบี รวมไปถึง ผ้าสะอาดซักชิ้น อย่างที่บอกว่าน้องหนิมหล่อนชอบซ่อนตัวอยู่ตรงจุดที่เรามองไม่เห็น รอจนกว่าจะมีความชื้นจึงจะรุกคืบ ดังนั้นจุดที่มีน้ำไหลผ่านหรือที่ต้องพบกับละอองน้ำ ก็น่าจะเป็นจุดเสี่ยงที่สุด นั่นคือภายนอกตัวรถ อย่างที่บอกว่าแม้จะเป็นรถใหม่ แต่ก็อาจจะเกิดขึ้นได้และถ้ามันยังไม่เกิดเราก็สามารถป้องกันไว้ก่อนได้
จุดที่เรามีทุกคันจุดแรกนั้นคือ บรรดาบานพับประตู ซึ่งดุแล้วเราจะเห็นว่ามันอยู่ด้านในตัวรถ เมื่อปิดประตูแล้วก็มักจะเห็นมันแอบอยู่มิดชิด คิดว่าไม่โดนแด โดนลม จริง ๆ แล้วความชื้นจะเข้าถึงตัวมันได้อย่างง่ายดาย และบานพับประตูนี้เองถ้าเกิดมันฉีกขึ้นมาล่ะก็ ประตูจะตก ปิดยากหรือหลุดออกมาได้เลย อีกหนึ่งจุดที่สำคัญไม่แพ้กันคือ ขอล็อคบานประตูเพราะตรงนี้จะเป็นจุดที่เสียดสี แต่รถยุคใหม่สมัยนี้อาจจะใช้โลหะชนิดอื่นมาทำเพื่อลดปัญหาเรื่องนี้ให้มดไป อย่างไรก็ดี อย่าเพิ่งประมาท ตรวจดูซะก่อนหากพบร่องรอยของน้องหนิมเธอแล้ว สิ่งที่เราจะต้องลงมือทำอย่างแรกคือ เอาผ้าเช็ดทำความสะอาดให้เกลี้ยง จากนั้นดูว่าจุดที่เกิดสนิมนั้นห่างจากจุดที่เป็นสีของตัวถังมากน้อยเพียงใด ถ้าห่างกันมากก็ไม่เป็นไร ลงมือใช้กระดาษทรายขัดได้เลย กระดาษทรายที่แนะนำก็จะเป็นเบอร์ที่ละเอียด ๆ หน่อย เช่น 800 ขึ้นไป เพื่อความสวยงามและไม่ทำร้านสีรถหากพลาด ข้อควรระวังมาก ๆ เลยบานพับต่าง ๆ ที่จะทำนี้อยู่ในมุดของซอกประตูต่าง ๆ หากเปิดประตูเอามือสอดเข้าไปแล้ว ห้ามขยับบานประตูเด็ดขาด ควรจะหาอะไรวางกั้นไว้ป้องกันอุบัติเหตุหรือคนเซ่อซ่าปิดเข้ามาหนีบมือถึงบาดเจ็บหนักได้
เมื่อขัดจนหน้าตาน้องหนิมหายไปจากจุดเกิดเหตุแล้ว ให้ใช้ผ้าแห้งเช็ดคราบฝุ่นสนิมออกซะ ห้ามใช้น้ำล้าง ใครอยากให้สะอาดควรใช้บรรดาสเปรย์หล่อลื่นหรือน้ำมันหล่อลื่นในการชะล้าง จากนั้นเช็ดให้ออกเช่นกัน แล้วใช้จาระบีที่เตรียมมาบีบลงบนเนื้อโลหะที่จัดพื้นผิวจากนั้นทาให้ทั่วบริเวณที่ขัดนั้น หากจะให้อยู่คงทนนาน จะหาหนา ๆ ก็คงไม่มีใครว่าเช่นกัน
ไม่เพียงแต่บานพับประตูด้านข้างเท่านั้น บรรดารถแฮทช์แบ็ค 3 หรือ 5 ประตูนั่นแหล่ะที่จะเกิดน้องหนิมได้มากกว่าชาวบ้านเขา เพราะประตูท้ายมักจะเปิดอ้าขึ้นด้านบน ทำให้บานพับอยู่ด้านบน และส่วนนี้เองที่จะเป็นทางน้ำไหลผ่านเช่นกัน จุดนี้ไม่ควรมองข้ามสำหรับรถประเภทนี้ เรียกได้ว่าจุดยอดนิยมเลยทีเดียว การลงมือทำก็คงจะเหมือน ๆ กันเน้นกันที่ว่าหาอะไรมาค้ำบานประตูไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย สำหรับจุดต่อมาที่จะต้องเจอกับแดดลมเช่นกันก็คือ บรรดาฝากระโปรงทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นฝากระโปรงหน้า ยังไงก็มีล่ะบานพับน่ะ
ก็แน่นอนว่าเป็นจุดที่ต้องขยับตัวไปมามันก็ต้องมีการเสียดสี สารเคลือบอาจหลุดร่อนแถมเจอกับความชื้นก็จัดการซะ
นอกจากนี้บรรดารถยนต์รุ่นเก่า ๆ หรือรุ่นที่มีตัวช่วยในการเปิดฝากระโปรงแบบสปริง (คือ ไอ้เหล็กเส้นที่อยู่ด้านในลองก้มเข้าไปดูสิ) ใครจะหล่อลื่นจดหมุนหรือส่วนที่เสียดสีก็ได้แถมยังช่วยลดเสียงอีกด้วยบางรุ่นอาจเป็นช็อคอับขนาดเล็กซึ่งจะไม่มีเหล็กชนิดแบบนี้และอีกหนึ่งจุดที่เรามักจะมองข้ามคือฝาถังน้ำมัน บริเวณขอบข้างในเวลาที่เราเข้าไปใช้บริการตามปั๊มบางครั้งบางทีในขั้นตอนการเติมอาจจะมีการกระแทกโดยไม่ได้ตั้งใจผสมกับเชื้อเพลงที่เป็นสารกัดกร่อนซึ่งนำพามาถึงสาเหตุได้เช่นกัน อย่าลืมดูที่ฝาถังน้ำมันด้วย จุดนี้หากใครกลัวสถลอกหรือสนิมนั้นเกิดจากคราบน้ำมามาเกาะขังตามร่อง ให้ใช้น้ำยาขัดสีหรือผ้าชุบน้ำล้างทำความสะอาดดูก่อนเพื่อป้องกันรอยที่จะเกิดขึ้นบนเนื้อสี จากนั้นเมื่อสนิมหลุดออกแล้ว ให้ใช้น้ำเคลือบสีลงซะ หากใครโดนกัดถึงเนื้อเหล็กก็ใช้กระดาษทรายเบอร์ละเอียดขัดบาง ๆ แล้วเอาสีมาแต้มให้เรียบร้อย