เทคนิครถยนต์: เครื่องยนต์ดีเซลอยากแรงกับไนตรัสอ๊อกไซด์
Nitrous Oxide (N2 O) เป็นแก๊สที่วงการแพทย์ใช้ในการทำให้คนไข้สลบ เมื่อมีการผ่าตัด คุณสมบัติของแก๊สชนิดนี้คือไม่มีสี ไม่มีกลิ่น มีส่วนประกอบระหว่างไนโตรเจน (Nirogen) 64 เปอร์เซ็นต์ กับออกซิเจน (Oxygen) 36 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถ้าเทียบกับอ๊อกซิเจนในอากาศที่เราหายใจอยู่ทุกวันนี้เราจะได้อ๊อกซิเจนเพียง 23 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นในบรรยากาศ ดังนั้นสัดส่วนออกซิเจนที่อยู่ในไนตรัสอ๊อกไซด์จะมีมากกว่าปกติอยู่ถึงสองเท่าตัว และความหนาแน่นของไนตรัสอ๊อกไซด์ก็ยังมากกว่าอากาศอยู่เกือบหนึ่งเท่าตัว จึงเป็นช่องทางสำหรับคนหัวใส่ที่จะนำมันมาใช้ในการเพิ่มความแรงให้กับเครื่องยนต์เพื่อประโยชน์ในการเร่งความเร็วแบบฉับพลัน
หลักการทำงานง่าย ๆ ของไนตรัสอ๊อกไซด์ เมื่อถูกฉีดเข้าสู่ห้องเผาไหม้ จังหวะที่เครื่องยนต์สันดาปภายในอยู่ในจังหวะอัดอุณหภูมิในกระบอกสูบจะสูงขึ้นจนทำให้อ๊อกซิเจนแตกตัวออกมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาไหม้ ซึ่งเมื่อมีการเผาไหม้ดีขึ้น น้ำมันเชื้อเพลิงจึงต้องมีการเพิ่มปริมาตรให้เหมาะสม ไม่ให้เกิดการผิดเพี้ยนจนทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้หรือที่เราเรียกกันว่าส่วนผสมบางเกินไป จนทำให้เกิดปัญหาการจุดระเบิดก่อนกำหนด หรืออาการชิงจุดระเบิดในเครื่องยนต์ทำให้เกิดความเสียหายได้
ระบบที่ใช้ในการติดตั้งไนตรัสอ๊อกไซด์จะแบ่งโดยการใช้วิธีฉีดเข้าสู่เครื่องยนต์แบบแรกเรียกว่า Dry System (ระบบแห้ง) ระบบนี้จะฉีดเพียงไนตรัสอ๊อกไซด์เท่านั้น ไม่มีการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงร่วมไปด้วย ส่วนการเพิ่มน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับเครื่องยนต์นั้นจะมีสองแบบคือเพิ่มขนาดของตัวหัวฉีดแต่ละสูบให้สามารถฉีดน้ำมันได้มากขึ้นหรืออาจใช้วิธีเพิ่มระยะเวลาการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงที่ตัวกล่อง ECU ให้นานขึ้นกว่าเดิมซึ่งแบบนี้จะเหมาะสมกับที่ไม่ต้องการเพิ่มกำลังเครื่องยนต์สูงมากกว่าเดิมหนัก เพราะตัวหัวฉีดเดิมติดเครื่องยนต์มีความสามารถในการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ตามสเป็คของหัวฉีดอยู่แล้ว ถ้าคุณต้องการมากกว่าก็คงต้องไปกาหัวฉีดใหม่ที่สามารถจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงได้มากกว่าของสแตนดาร์ด ข้อดีของระบบนี้คือลงทุนน้อย (ส่วนมากในบ้านเราจะเล่นระบบนี้กัน) ส่วนข้อเสียคือการกระจายของไนตรัสอ๊อกไซด์นั้นยากที่จะควบคุมให้เท่ากันในแต่ละสูบ
Wet System (ระบบเปียก) ระบบนี้จะมีทั้งหัวฉีดของไนตรัสอ๊อกไซด์และหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นการปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบแห้ง ทำให้การจุดระเบิดสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เหมาะสมกับเครื่องยนต์ที่มีท่อไอดียาวเท่า ๆ กัน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับรถยนต์มีเทอร์โบ ส่วนข้อเสียจะเหมือนกับระบบแห้งคือ การกระจายตัวของ Nitrous Oxide ไปแต่ละสูบจะหนาบางไม่เท่ากัน ส่งผลถึงความทนทานของเครื่องยนต์โดยตรง
Direct Port System (ระบบฉีดตรงสู่พอร์ท) เป็นการใช้หัวฉีดไนตรัสอ๊อกไซด์และหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงเสริมเข้าที่พอร์ทหรือท่อไอดีของแต่ละสูบ จึงถือได้ว่าระบบนี้เป็นระบบที่สมบูรณ์แบบที่สุดแล้วในขณะนี้ ข้อเสียคือเรื่องราคาที่แพงและการทำที่ขั้นตอนมากขึ้นคือต้องมีการเจาะรูที่คอท่อมากขึ้น
การติดตั้งนั้นไม่ยาก แต่ควรให้ผู้ชำนาญเป็นผู้ทำ ในเครื่องยนต์ดีเซลโดยส่วนมากแล้วจะเล่นระบบแห้ง ซึ่งการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มนั้นในปั๊มกลไกของเครื่องยนต์ดีเซล จะเป็นการปรับไม่ละเอียดจะเป็นการเพิ่มขนาดตัวลูกปั๊ม ซึ่งถ้าทำขนาดนี้แล้วรับรองว่าเทอร์โบเดิมคงไม่เห็นหน้าตาแล้ว เราจะเห็นเทอร์โบตัวใหญ่มาแทนที่ การปรับแต่งเครื่องยนต์ที่ครบสูตรแค็มชาฟท์องศาสูงเปลี่ยนปะเก็นเหล็กลดกำลังอัดในห้องเผาไหม้ ทำให้เครื่องยนต์มีความทนทานมากขึ้น และพื้นฐานของเครื่องยนต์ดีเซลเองมีความทนทานสูงอยู่แล้ว ทนกำลังอัดในกระบอกสูบที่สูงถึง 18-19 ต่อ 1 ได้สบาย แต่ถ้าเป็นระบบปั๊มรุ่นใหม่ ๆ คงต้องพึ่งพากล่องพ่วงในการสั่งจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นกันตามธรรมเนียม
การติดตั้งถังไนตรัสควรวางอยู่ในตำแหน่งที่สามารถเปิดวาล์วใช้งานได้ง่ายไม่ต้องลำบากในการเอื้อมมือ ส่วนสวิทช์ควบคุมการฉีดไนตรัสก็ควรติดตั้งไว้ในตำแหน่งที่สามารถกดได้สะดวก การเดินท่อแรงดันสูงจากตัวถังไปยังตัวโซลินอยด์ที่มีตำแหน่งการติดอยู่ในห้องเครื่องยนต์นั้นควรเดินหลยในตำแหน่งที่คนไม่สามารถเหยียบได้ เพื่อป้องกันท่อทางเดินตีบแบนหรือหักงอได้ ที่สำคัญควรเดินแบบเส้นเดียวยาวตลอด (ไม่มีจุดต่อจะดีมาก) เข้ามาในห้องเครื่องยนต์จากท่อแรงดันสูงนั้นเดินเข้ามาหาโซลินอยด์ ซึ่งตัวโซลินอยด์นั้น้องมีการรีเลย์มาควบคุมอีกที โดยตัวโซลินอยด์ที่มีรูปทรงกระบอกเล็ก ๆ จะมีทางให้ Nitrous Oxide เข้าและทางส่ง Nitrous Oxide ไปยังหัวฉีดด้วยการใช้สายถักต่อเข้าไปยังหัวฉีดที่ถูกเจาะฝังบริเวณคอท่อร่วมไอดีเพียงแค่นี้ก็เรียบร้อยโรงเรียนเครื่องยนต์ดีเซลครับ ส่วนเรื่องการปรับปริมาณการไหลของไนตรัสอ๊อกไซด์มากน้อย คงต้องขึ้นอยู่กับความชำนาญของผู้จูนแล้วล่ะครับว่าจะเล่นกับหัวจ่ายด้วยเบอร์อะไร ซึ่งต้องดูความเหมาะสมเครื่องยนต์ด้วย ซึ่งอย่างที่บอกตั้งแต่ต้นแล้วว่าต้องเล่นเป็นส่วนผสมของอากาศอย่าให้บางเกินไปไม่เช่นนั้นแล้วเครื่องยนต์ของคุณอาจกลับบ้านเก่าได้
ของเล่นที่ดูแล้วไม่ยากเย็น แต่ต้องระมัดระวังในการปรับจูนเป็นอย่างมากและที่สำคัญคือการใช้งานต้องเบามือ อย่าใช้โดยการกดแช่กันนาน ใช้ต่อครั้งไม่นานเกินเป็นดีที่สุดกันไว้ก่อนเครื่องยนต์พังซึ่งโดยปกติยิงกันครั้งหนึ่งไม่เกิน 10 วินาทีแล้วปล่อย ถ้าเล่นเป็นและหักห้ามใจได้ความแรงนี้จะเป็นประโยชน์ แต่ถ้าเป็นคนที่หักห้ามอารมณ์ไม่ได้ชอบกดค้างยิงยาวของเล่นตัวนี้เป็นสิ่งต้องห้ามครับ