เทคนิครถยนต์: ทำตัวหน่วงเวลาใบปัดน้ำฝน

เทคนิครถยนต์:  ทำตัวหน่วงเวลาใบปัดน้ำฝน

            ตอนนี้คันไม้คันมืออยากทำตัวหน่วงเวลาชุดใบปัดน้ำฝนให้มีจังหวะมากกว่า Low กับ Hi เอาแบบที่เรียกว่า “ปัดแผล่บ” เวลาฝนตกโปรยปรายเล็กน้อยจะได้มีใช้โก้ ๆ
             คราวนี้ได้ชุดคิทหน่วงเวลาปัดน้ำฝนมาแล้วก็ต้องมีอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องกันด้วยเช่น กล่องใส่ชุดหน่วงเวลาปัดน้ำฝน สายไฟขนาดเล็กที่ต้องไปเชื่อมต่อกับชุดสายไฟหลักของระบบปัดน้ำฝน อุปกรณ์ทั้งหมดหาซื้อได้จากร้านเดียวกัน


            ชุดที่ซื้อมานี้เป็นชุดสำเร็จที่ตัวอุปกรณ์ลงแผ่นปริ้นท์มาให้อย่างเรียบร้อย ไม่ต้องมาลงอุปกรณ์เองให้เสียเวลา แต่การจับมาลงกล่องใส่อุปกรณ์ต้องมีการดัดแปลงกันบ้างเล็กน้อย เพราะกล่องที่ซื้อมาไม่ได้เป็นกล่องที่ใช้เฉพาะกับงานนี้โดยตรง จึงต้องมีการตัดแต่งแผ่นปริ๊นท์นิดหน่อยที่มุมของตัวแผ่นปริ๊นท์ โดยตัดเพื่อหลบเสายึดน็อตกล่องใส่อุปกรณ์ด้วยเลื่อยเล็ก ตัดแต่งให้เรียบร้อยส่วนตัวกล่องด้านในก็ต้องมีการตัดเสากลางออกเพื่อให้วางชุดคิทได้พอดี และยังมีอีกเรื่องคือ สวิทช์ปรับจังหวะการทำงานใบปัดน้ำฝนคงต้องมีการย้ายตำแหน่งนำออกมาจากตัวแผ่นปริ๊นท์

            เพื่อความสวยงามในการบรรจุลงกล่องจึงต้องมีการจัดวางแผ่นปริ๊นท์อุปกรณ์ให้เป็นระเบียบ เพื่อให้มีพื้นที่ในการวางสวิทช์ปรับจังหวะการทำงานใบปัดน้ำฝนได้ด้วย ขั้นแรกต้องนำสวิทช์ออกมาจากตัวแผ่นปริ๊นท์โดยการใช้หัวแร้งจี้ไปที่ขาของตัวอุปกรณ์ เพื่อละลายตะกั่วทำให้สามารถดึงขาอุปกรณ์ออกมาได้ จิ้มไปประมาณ 5 ครั้ง เพราะมีอยู่ 5 ขาถึงจะนำออกมาได้ เมื่อนำออกมาแล้วคราวนี้ต้องนำสายไฟขนาดเล็กมาเป็นตัวเชื่อมกันระหว่างตัวความต้านทานปรับค่าได้กับตัวแผ่นปริ๊นท์ แต่เวลาที่บัดกรีลงไปกรุณาอย่า “มั่ว” เดี๋ยวมันจะไม่ทำงาน เมื่อเรียบร้อยแล้ว คราวนี้ก็จะเป็นการหาตำแหน่งที่จะติดตั้งบนตัวกล่องกันล่ะ

            เมื่อได้ตำแหน่งที่ถูกใจหลบแผ่นปริ๊นท์ได้ก็จัดการมาร์คไว้ เพื่อที่จะให้แกนสวิทช์นั้นโผล่ออกมาจากกล่องให้เราสามารถหมุนปรับตั้งเวลาปัดน้ำฝนได้ ในการเจาะกล่องสามารถใช้สว่านไฟฟ้ามาเจาะก็ได้ โดยหาดอกขนาดใกล้เคียงกับแกนของสวิทช์มาใช้ ถ้าเล็กไปก็สามารถแยงขยายให้พอดีได้ เมื่อจบขั้นตอนการใส่สวิทช์เรียบร้อยแล้ว คราวนี้ก็มาดูจุดที่จะต้องต่อสายออกมาจากตัวหน่วงเวลาปัดน้ำฝน โดยจะมีจุดต่อสายไฟเป็นแถวสีเขียวใช้น็อตเป็นตัวยึดสาย ซึ่งตัวสายไม่มีมาให้ในชุด แต่เราซื้อมาเตรียมพร้อมตั้งแค่แรกแล้วจึงเลือกมาหลายสีหน่อยจะได้จำง่าย มีด้วยกันห้าเส้น โดยผมกำหนดให้ ขั้วบวก สายสีแดง ขั้วลบ สายสีเหลือง ขั้ว NC สายสีดำ

            เมื่อจัดสายตามข้างบนแล้ว คราวนี้ก็มาถึงงานยากคือ ต้องมานั่งไล่สายไฟกันก่อน เมื่อชุดครอบคอพวงมาลัยเปิดออกด้วยกาคลายน็อตไม่กี่ตัวก็จะเห็นชุดปลั๊กสายไฟด้ายซ้าย ซึ่งเป็นชุดไฟที่ใช้งานกับก้านสวิทช์ทางด้านซ้ายทั้งหมด โดยเป็นตัวฉีดน้ำกระจกและที่ปัดน้ำฝน ดึงชุดปลั๊กออกมาจะเห็นสายไฟอยู่ที่ปลั๊กเกือบ 10 เส้น เล่นเอาตาลาย ดีที่มีมัลติมิเตอร์ แบบตัวเลข (ดิจิตอล) พกมาด้วยเลยต้องพึ่งความสามารถของตัวมัลติมิเตอร์ด้วยการปรับไปที่ย่านการวัดแรงดันไฟฟ้ากระแสตรง หรือ “DCV” ก่อน ในการวัดเราจะหาไฟขั้วบวกก่อนว่าอยู่ที่สายเส้นไหน เมื่อรู้แล้วก็จะหาสายไฟที่ต่อไปยังก้านควบคุมใบปัดน้ำฝนได้ง่ายขึ้น โดยจะไล่วัดสายไปทุกเส้นแล้วให้สังเกตที่ตัวจอมัลติมิเตอร์ไว้ถ้าเกิดมีตัวเลขขึ้นแสดงว่ามาถูกทางแล้วจำสายสองเส้นที่วัดไว้เส้นหนึ่งเป็นไฟบวก 12 โวลท์ อีกเส้นเป็นไฟลบ คราวนี้ต้องมาวัดให้แน่นอนอีกครั้งว่าเส้นไหนไฟบวก โดยสายวัดของตัวมัลติมิเตอร์จะมีสีแดงและดำ ซึ่งเป็นตัวกำหนดว่าสายสีแดงนั้นแทนขั้วบวก ส่วนสายสีดำแทนขั้วลบ แต่ต้องต่อสายเข้ากับตัวมัลติมิเตอร์ให้ถูกต้องด้วยนะครับ จากนั้นมาเช็คสายไฟกันอีกว่าสายเส้นไหนเป็นสายไฟที่ใช้ในการควบคุมมอเตอร์ใบปัดน้ำฝนว่าสายเส้นไหนเป็น Low และ Hi

            สำหรับการเช็คให้รู้ว่าสายไฟเส้นไหนไปสั่งงานให้มอเตอร์ทำงานก็ต้องมาเปิดฝากระโปรงห้องเครื่องกันสักนิดเพื่อให้ง่ายยิ่งขึ้น ด้วยการใช้เทคนิคถอดปลั๊กที่ตัวมอเตอร์ใบปัดน้ำฝนออกแล้วเอาสายสีดำของตัวมัลติมิเตอร์แตะไว้กับกราวด์ของมอเตอร์ ส่วนอีกสายไปแตะกับช็อคเก็ตในปลั๊กและให้ปรับก้านใบปัดน้ำฝนไปที่ตำแหน่ง Low สังเกตบนหน้าปัดมัลติมิเตอร์ว่ามีแรงดันไฟฟ้าขึ้นมาหรือไม่ (ตัวมัลติมิเตอร์ยังคงใช้ย่านวัดที่ DCV) ถ้ายังไม่ขึ้นก็ให้ลองเปลี่ยนสายมัลติมิเตอร์ไปแตะที่ช็อคเก็ตตัวอื่นไล่ไปจนกว่าจะมีแรงดันไฟฟ้าแสดงที่หน้าปัดมัลติมิเตอร์ (ขั้นตอนนี้อย่าลืมปิดสวิทช์กุญแจมาที่ตำแหน่ง On ที่ปัดน้ำฝนจึงทำงานได้)

            เมื่อรู้ว่าสายเส้นไหนเป็นสายที่มาจากสวิทช์ Low แล้ว ก็มาหาด้าน Hi ด้วยวิธีเดียวกัน อย่าลืมจำสีของสายไฟแม่น ๆ อย่าสลับกันซะก่อนล่ะครับ เช็คเสร็จแล้วก็จับปลั๊กเสียบเข้าที่ให้เรียบร้อย แล้วมตั้งหน้าทำกันต่อที่ชุดสายไฟคอพวงมาลัย เมื่อรู้ว่าสายสีอะไรทำหน้าที่อะไรก็เป็นเรื่องง่าย ที่ต้องต่ออันดับแรกเลยคือ ต่อไฟบวกลบเพื่อเข้าชุดหน่วงเวลาปัดน้ำฝนก่อน เพื่อจะเช็คว่าตัววงจรที่เราดัดแปลงไปนิดหน่อยนั้นยังสามารถทำงานได้ปกติหรือไม่ ต่อมาก็ต้องมีการตัดต่อสายไฟก่อนจะเข้าตัวสวิทช์ก้านปัดน้ำฝน ตำแหน่ง Low แล้วนำสาย COM กับสาย NC ไปจั๊มพ์เข้าที่ปลายสาย

            คราวนี้ก็จะเหลือสายของขั้ว NO ให้นำไปต่อไว้กับไฟบวกซึ่งเป็นจุดสำคัญที่จะไปทำให้มอเตอร์ใบปัดน้ำฝนทำงานเมื่อใช้งานชุดหน่วงเวลานี้ โดยจะมีขุดรีเลย์ในวงจรหน่วงเวลาเป็นตัวตัดต่อ เราจะได้ยินเสียงรีเลย์ทำงานตามจังหวะใบปัดน้ำฝนทำงาน โดยมีปุ่มปรับการหน่วงเวลาใบปัดน้ำฝนเป็นตัวควบคุมว่าจะหน่วงจังหวะเวลาการทำงานไว้กี่วินาที เสร็จแล้วก็ต้องมีการลองกันสักนิด เพื่อให้แน่ใจว่าใช้ได้ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็จัดเก็บสายไฟและพันจุดที่ตัดต่อสายด้วยเทปพันสาย และอย่าลืมหาตำแหน่งติดตั้งชุดหน่วงเวลาตัวนี้ให้ใช้งานได้สะดวก ๆ นะครับ ท้ายสุดก็ประกอบครอบคอพวงมาลัยให้เรียบร้อยเหมือนเดิม แค่นี้รถคันเก่าของคุณก็มีปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลาไว้ใช้แล้ว เมื่อต่อวงจรตามแบบที่ว่ามา ในตำแหน่ง Low จะไม่สามารถทำงานปัดได้เหมือนเดิมเพราะได้เอาตัวหน่วงเวลาไปคั่นไว้ ทำให้ตำแหน่งนี้กลายเป็นการทำงานแบบหน่วงเวลาเท่านั้น ได้อย่างเสียอย่าง ลองเลือกตัดสินใจเอานะครับ