เทคนิครถยนต์: เมื่อล้างช่วงล่าง บางอย่างอาจปรากฏ
แก๊ง D.I.Y มือซน ชวนทำความสะอาดช่วงล่าง เล่นกันง่าย ๆ ค่าใช้จ่ายน้อย แต่รถจะสะอาดเอี่ยมยิ่งขึ้น
อุปกรณ์ที่ต้องใช้ไม่มีอะไรมาก อย่างเช่น แปรงที่จะมาใช้ทำความสะอาดแนะนำให้ใช้แบบแปรงใยมะพร้าว หรือไม่ก็ใช้พวกไนล่อนก็ได้ แต่อย่าใช้ชนิดที่ขนแปรงแข็งมากและเป็นโลหะ เดี๋ยวจะทำให้ชิ้นส่วนต่าง ๆ เสียหาย แปรงใยมะพร้าวหาซื้อได้ไม่ยาก ถังน้ำ และน้ำยาทำความสะอาด น้ำยาที่ว่านี้ใช้น้ำยาล้างจานก็ดี เพราะล้างออกง่ายและขจัดคราบมันได้ดี จะให้ดีหาแม่แรงและพวกสแตนด์ขาตั้งหรือที่ชอบเรียกกันว่า “3 ขา” มารองซะหน่อยจะได้ปลอดภัย
งานนี้หาผู้ช่วยมาร่วมปฏิบัติการด้วย เริ่มด้วยเอารถมาคลายน็อตล้อออกก่อน คลายนะครับ ไม่ใช่ถอดเลย ส่วนเครื่องมือถอดถ้าเป็นน็อตล้อทั่วไปติดรถก็หาบล็อคได้จากชุดเครื่องมือที่มามาให้ในรถ ถ้าไซส์ไม่ปกติก็ต้องพึ่งพาชุดบล็อคหรือกากบาท เมื่อคลายออกมาได้แล้วขึ้นแม่แรงซะ ใครใช้แม่แรงติดรถให้ขึ้นด้วยความระมัดระวังทีละข้าง หรือถ้ามี 2 ตัวก็ขึ้นทีละคู่ (คู่หน้าและคู่หลัง) ให้คลายน็อตเฉพาะล้อที่จะยกขึ้นก่อน จากนั้นดึงเบรกมือ ส่วนรถขับเคลื่อนล้อหน้าให้คาเกียร์เอาไว้ด้วย ถ้าเป็นเกียร์อัตโนมัติให้ใส่เกียร์ P แล้วก็ขึ้นพร้อม ๆ กันที่ชายน้ำ หรือส่วนที่คู่มือการใช้รถยนต์บอกมา ให้ดูที่แม่แรงติดรถมาบางรุ่นจะมีบอก ใครใช้ตัวใหญ่ก็ขึ้นแล้วเอาสแตนด์รองแล้วก็ลดแม่แรงลงหน่อยนึงให้รถนั่งบนสแตนด์ แต่ว่าไม่ต้องลดแม่แรงลงสุดเผื่อไว้ประคองปลอดภัยไว้ก่อน ทีนี้หมุนน็อตล้อออกมาได้ จากนั้นถอดล้อออก
สำรวจบรรดาคราบน้ำมันต่าง ๆ จากกระบอกช็อคดับ ว่ามีไหลเยิ้มออกมาหรือไม่ ถ้าหากว่ามีแล้วมีมากมีน้อยขนาดไหน ถ้าเยิ้มออกมาจากยากันฝุ่นช็อคอับมากพอควร ก็แสดงว่ามีการรั่วซึมแล้ว ควรจะถอดออกมาดูอาการ หรอืถ้ายังไม่แน่ใจก็ดูจุดต่อไปก่อน ดูที่คาลิเปอร์เบรกว่ามีคราบน้ำมันรั่วซึมหรือไม่ ส่วนนี้จะดูง่ายเช่นกัน หากรั่วซึมเตรียมตัวเข้าซ่อมได้เลย เพราะเป็นจุดสำคัญเกี่ยวข้องกับความเป็นความตาย ดูความหนาของผ้าเบรกว่าเหลือมากน้อยขนาดไหน ใช้ได้อีกนานหรือไม่ ถ้าเป็นพวกบู๊ชลูกหมากต่าง ๆ ว่ามีคราบจาระบีทะลักไหลออกมาหรือเปล่า และในส่วนของล้อขับเคลื่อนพวกที่ไม่ใช่คานแข็ง หากล้อด้านในมีคราบจาระบีสาดอยู่ก็ต้องตรวจเช็คยางหุ้มเพลา เพราะน่าจะมีความเสียหายหรือไม่ก็ฉีกขาด ในส่วนของคันชักคันส่งหากมีน้ำมันไหลเยิ้ม ให้ดูที่ยางกันฝุ่นแร็คพวงมาลัย ถ้าภายในมีน้ำมันขังอยู่ก็แน่นอนซีลแร็คพวงมาลัยมีปัญหา อ้อ..อย่าลืมดูพวกบู๊ชยางต่าง ๆ ว่าฉีกขาดหรือยังด้วย
จากอาการดังกล่าวมา ถ้าอันไหนที่ดูแล้วยังไม่ค่อยแน่ใจให้เริ่มทำความสะอาดกันได้เลย เริ่มจากเอาน้ำชโลม ข้อควรระวังสำหรับพวกรถซิ่งทั้งหลายหรือใครที่ชอบเปลือยลูกปืนล้อ ให้ระวังเป็นพิเศษ เดี๋ยวน้ำจะเข้าไปในส่วนนี้แล้วจะมีผลระยะยาวได้ หากจาระบีเสื่อมจะเสียตังค์ซะอีก จากนั้นเอาแปรงใยมะพร้าวกับน้ำยาทำความสะอาด เริ่มทำความสะอาดในซุ้มล้อที่สิ่งสกปรกเข้าไปสะสมอยู่ ตรงขอบในซุ้มล้อที่เป็นคล้าย ๆ รางน้ำตลอดซุ้มนั่นแหล่ะครับ รวมไปถึงผนังซุ้มล้อ ล้างแล้วจะได้เช็ดความเสียหายของตัวถังว่ามีการฉีกหรือกระแทกส่วนใดหรือเปล่า เชื่อเหอะล้างครั้งเดียวไม่พอจริง ๆ อย่างน้อยต้องมี 2 รอบ ทีนี้เอาล้อมาล้างซะด้วยเลย ล้างทั้งข้างนอกข้างใน อาจจะได้เห็นอะไรที่ไม่เคยคิดว่าจะได้เห็น เช่นคันนายแบบนี้ ยางด้านในบวมครับพี่น้อง ถึงจะบวมไม่มากแต่ก็บวมแล้วอ่ะนะ..
เมื่อล้างเสร็จเอาผ้าเช็ดทำความสะอาดให้แห้ง ส่วนไหนที่เช็ดยากผึ่งลมไว้สักพักไม่นานก็แห้ง แล้วประกอบกลับ เมื่อใส่ล้อกลับดังเดิมให้ไขน็อตล้อให้ตึงมือก่อนค่อยเอารถลงสู่พื้นจากนั้น ห้ามลืมเด็ดขาด ขันย้ำน็อตล้ออีกครั้งหนึ่งทุกตัวทุกล้อ ไม่เช่นนั้นอาจเกิดอันตรายร้ายแรงได้
เมื่อล้างช่วงล่างของรถให้สะอาดเอี่ยมแล้วอย่าเพิ่งจอดเก็บ ให้สตาร์ทรถออกไปขับวนสัก 1 กิโลเมตร ให้ส่วนที่เปียก ๆ ชื้น ๆ ใช้ผ้าเช็ดเข้าไปไม่ถึงได้โดนลมจนแห้งสนิท อีกอย่างที่ห้ามลืมเด็ดขาดคือเมื่อจอดรถเก็บ อย่าใส่เบรกมือหรือเข้าเกียร์ P เพราะอาจมีน้ำหรือความเปียกชื้นหลงเหลืออยู่ หากกลัวรถจะไหลให้หาไม้มาหนุนไว้ เมื่อจะใช้รถอีกครั้ง หลายคนอาจตกใจเมื่อปลดเบรคมือถอยรถแล้วรถไม่ยอมเขยื้อนหรือเขยื้อน แต่มีเสียงดังกึกกว่าจะถอยได้ นั่นเป็นเพราะชิ้นส่วนในระบบมีอาการฝืดตัวจากที่มีน้ำขังอยู่แล้วแห้งไปในชั่วข้ามคืน
เรื่องง่าย ๆ ที่อาจทำให้เจอปัญหาที่ซ่อนอยู่ แต่ในส่วนที่ไม่แน่ใจดังขั้นต้นที่กล่าวมาหลังจากล้างไปแล้วซักระยะให้ตรวจเช็คอีกทีหนึ่ง ถ้าส่วนไหนมีน้ำมันไหลเยิ้มปรากฏอีก แสดงว่าชัวร์ ได้เวลาเสียตังค์อีกแล้ว