เคล็ดลับซื้อรถมือสอง รวมเทคนิคและวิธีการเลือกซื้อรถมือสอง คลิก!! More

มารู้จักวิธี "สตาร์ทรถ" ที่ถูกต้องกันเถอะ

มารู้จักวิธี "สตาร์ทรถ" ที่ถูกต้องกันเถอะ

การสตาร์ทรถยนต์มีความสำคัญเป็นอย่างมากเพราะหากเราทำผิด หรือรีบร้อนเกินไปบ่อย ๆ จะ่ทำให้สมรรถนะและประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ด้วยลงไป ซึ่งในระบบสตาร์ทรถยนต์โดยทั่วไป ทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลที่กุญแจสตาร์ทจะต้องบิดกุญแจ 3 จังหวะ คือ AC , ON  และ START ผู้ขับขี่บางท่านอาจจะปิดกุญแจรวดเดียว 3 จังหวะไปที่ START ถ้ารถท่านเป็นรถใหม่ก็อาจจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้ารถท่านผ่านการใช้งานมานาน ๆ อาจต้องสตาร์ทหลายครั้งก่อนที่เครื่องยนต์จะติด ซึ่งระหว่างที่ท่านสตาร์ทรถหลาย ๆ ครั้งนั้น ท่านกำลังทำลายระบบสตาร์ทให้อายุการใช้งานสั้นลง 
 
         เทคนิคการขับรถยนต์: ข้อแนะนำการสตาร์ทรถที่ถูกวิธี โดยที่ท่านจะไม่ต้องมานั่งสตาร์ท แชะ แชะ แชะ ให้เสียฟอร์มอีกต่อไป และยังเป็นการยืดอายุการใช้งานของระบบสตาร์ทให้ใช้งานได้ดีและอยู่ให้ท่าน ใช้งานได้ไปอีกนานแสนนาน ด้วยวิธีง่าย ๆ ดังต่อไปนี้

  1. ก่อนสตาร์ทรถให้ท่านปิดอุปกรณ์ที่ใช้ระบบไฟทั้งหมดภายในรถของ เช่น เครื่องปรับอากาศ , ไฟหน้า ระบบเครื่องเสียงรถ  ระบบไฟต่าง ๆ ภายในรถเพื่อให้แบตเตอร์รี่พร้อมที่จะจ่ายไฟได้เต็มที่
  2. กรณีเกียร์ ธรรมดา กรุณาเข้าเกียร์ว่าง หรือ เหยีบครัชให้สุด  สำหรับเกียร์ AUTO ให้เข้าเกียร์ที่ตำแหน่ง N หรือ P เพื่อผ่อนแรงมอร์เตอร์สตาร์ท
  3. บิดกุญแจมาที่ตำแหน่ง ON ค้างไว้ ตราวจเช็คไฟเตือนต่าง (รายละเอียดให้ศึกษาจากคู่มือรถ)
      รอจนไฟเตือนหัวเผารูปขดสปริงเปลี่ยนจาก สีแดงเป็นสีเขียว ( หากเครื่องยนต์เย็น หรือไม่ได้สตาร์มานาน ควรกดแป้นคันเร่ง 1 ครั้ง )
  4. บิดกุญแจสตาร์ทรถเท่านี้คุณก็ไม่ต้องนั่งเสียฟอร์มสตาร์รถอีกต่อไป
      ข้อควรปฏิบัติ  ขอให้ทำจนเป็นนิสัยไม่ว่าจะเป็นรถเก่าหรือรถใหม่นะครับ แล้วท่านจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น

เทคนิคเิพิ่มเติมครับ >>

การสตาร์ทเครื่องยนต์ครั้งแรกในหน้าฝน และ หน้าหนาว เครื่อง อาจติดยากสักหน่อย สำหรับรถที่ใช้โช้กมือ ควรดึงโช้กก่อน และก่อนสตาร์ทให้เหยียบคันเร่งแรง ๆ 2 - 4 ครั้ง แต่สำหรับรถยนต์ที่ใช้โช้กอัตโนมัติก็ให้สตาร์ทได้เลย

เมื่อเครื่องยนต์ติดแล้ว อย่าเร่งเครื่องแรง ๆ เพราะในการติดเครื่องครั้งแรก น้ำมันหล่อลื่นชิ้นส่วนทางตอนบนยังมีน้อย การสึกหรอจึงมีสูงอายุการใช้งานจึงสั้นลง

ในกรณีจอดรถไว้ไม่ได้ใช้มาหลายวัน ก่อน จะสตาร์ทเครื่องยนต์ให้เหยียบคันเร่งให้สุดแล้วปล่อยประมาณ 2-3 ครั้ง จะทำให้ส่วนผสมของไอดีหนาขึ้น แล้วจึงสตาร์ทเครื่องยนต์ แต่ไม่ต้องเหยียบคันเร่ง เมื่อเครื่องยนต์ติดแล้วประมาณ 30 วินาที ให้ย้ำคันเร่ง 1-2 ครั้ง เพื่อให้เครื่องยนต์กลับมาสู่รอบเดินเบาปกติ ถ้าไฟอุณหภูมิดับหรือเข็มอุณหภูมิอยู่กึ่งกลาง แสดงว่าเครื่องสามารถออกรถได้

ถ้าเครื่องยนต์ยังอุ่นอยู่ ให้ เหยียบคันเร่งเพียงครึ่งเดียวแล้วบิดกุญแจสตาร์ท แต่ถ้าเครื่องยนต์ยังร้อนอยู่แล้วสตาร์ทรถไม่ติดอาจเป็นเพราะน้ำมันท่วม ให้เหยียบคันเร่งจนสุดประมาณ 15-20 วินาที ขณะที่เหยียบคันเร่งสุด บิดกุญแจสตาร์ทประมาณ 20-30 วินาทีติดต่อกัน เพื่อกำจัดเชื้อเพลิงส่วนเกินที่เข้าไปในห้องเผาไหม้ แต่ถาเครื่องยนต์ยังไม่ติดอีก ให้รอสักครู่แล้วลองอีกที แต่อย่าย้ำคันเร่ง เพียงแค่เหยียบคันเร่งให้สุดค้างไว้ก็พอ

เทคนิคการขับรถยนต์:

บทความรถยนต์ที่น่าสนใจ