เทคนิครถยนต์: ดูแล Hub กันหน่อยเถอะ
เทคนิครถยนต์: Hub หรือ “ฟรี-ล็อค” เป็นอุปกรณ์ส่วนหนึ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นรถ 4x4 อย่างแท้จริง เพราะมันจะเป็นตัวที่ปรับเปลี่ยน “ระบบขับเคลื่อน” ให้มีความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่และรูปแบบการใช้งาน Hub หรือ “ฟรี-ล็อค” ที่เพลาขับล้อหน้าทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของระบบขับเคลื่อนว่าจะเลือกใช้การขับเคลื่อนเฉพาะ 2 ล้อหลังหรือจะเล่นแบบขับเคลื่อนทั้ง 4 ล้อได้ตามความเหมาะสมและความต้องการของผู้ขับขี่
เทคนิครถยนต์: Hub จะมีให้เลือกใช้งานอยู่ 2 แบบ คือ 1.ปรับตั้งด้วยมือ 2.ปรับตั้งอัตโนมัติด้วยไฟฟ้า ซึ่งแบบที่สองนี้จะให้ความสะดวกสบายมากกว่าแบบแรกเยอะเลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ก็ต้องแลกมาด้วยราคาค่าตัวที่สูงกว่าแบบแรก ซึ่ง Hub มักจะเห็นติดตั้งมาให้กับรถกระบะ 4 WD ทุกคันในปัจจุบัน การหมั่นดูแลบำรุงรักษาจะทำให้มันสามารถใช้งานได้นาน
ขั้นตอนในการ “เยียวยา” ซ่อมบำรุง Hub นั้นอย่างแรกต้องบอกก่อนว่าตำแหน่งติดตั้งของมันจะอยู่รวมกับจุดหมุนต่าง ๆ อาทิเช่น “ลูกปืนล้อ” อันเป็นจุดที่ฝุ่นละอองสามารถเล็ดลอดแทรกซึมเข้าไปทำลายความสมบูรณ์ของชิ้นส่วนภายในและการทำงานที่อาจเกิดการติด ๆ ขัด ๆ ได้ ดังนั้นการดุแลรักษาจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากเมื่อผ่านการใช้งานสมบุกสมบันมา โดยเฉพาะกับพวก “ขาลุย” ทั้งหลายที่ขับรถฝ่าวิบากอยู่เป็นประจำ แบบนี้ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษยิ่งขึ้น
เริ่มต้นด้วยการลงมือออกแรงถอด “ฝาบิดตัวบังคับ” ออก เมื่อเปิดฝาออกแล้วจะสามารถมองเห็นความเสื่อมโทรมของชิ้นส่วนภายใน Hub ได้เป็นอย่างดี แต่สำหรับแบบ “ปรับตั้งอัตโนมัติ” เมื่อเปิดออกมาแล้วจะเจอกับชุด “ออโต้ล็อค” เราสามารถสังเกตดูที่ร่องฟันเฟืองได้เลยว่ามีสภาพความเสียหายระดับไหนถ้าเฟืองรูดมาก ๆ ก็จัดการเบิกของใหม่มาเปลี่ยนซะ อย่าลืมแหวนล็อคด้วยล่ะ
ส่วนแบบ “ปรับตั้งมือ” ตรวจเช็คสภาพความเสียหายเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็จัดการลงมือถอด Hub ออกจากเพลา ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่อง “ชิว-ชิว” สำหรับคนที่เคยทำบ่อย ๆ แต่สำหรับมือไหม้องใช้น้ำเย็นประคบเอาไว้ เพราะถ้าใจร้อนโอกาสที่เกิดความเสียหายมีพอสมควร ขั้นตอนนี้จำเป็นต้องมีตัวช่วยอย่าง “คีมถ่างแหวน” จัดการใช้มันถ่างแหวนล็อคให้หลุดออกมาจากด้านในเป็นอันดับแรก แต่ถ้าคีมตัวนี้ไม่มีก็มองซ้าย-มองขวาพยายามหา “ไขควงปากแบน” อันเล็ก ๆ สัก 2 หน่วยมาค่อย ๆ แงะแหย่เข้าไปปลดล็อคแหวนให้หลุดออกมา เพื่อให้ถอดชิ้นส่วนภายในได้อย่างสะดวก สำหรับเฟือง Hub ตัวนอกที่มองเห็นอยู่ตรงหน้าก็จัดการถอดออกมาล้างทำความสะอาดด้วยน้ำมันเบนซิน พร้อมกับตรวจเช็คสภาพความเสียหายว่ามีมากน้อยเพียงใดจะได้เปลี่ยนใหม่รวมไปถึง “ลูกปืนล้อ” ด้วย
เทคนิครถยนต์: จุดนี้เรียบร้อยแล้วก็ย้ายไปถอด “คาลิเปอร์เบรก” เพื่อถอดเอา “จานดิสก์เบรก” ที่ติดกับ Hub ออกมา จะได้สามารถตรวจเช็คสภาพของ “เพลาขับ” ว่ามีสภาพที่สมบูรณ์มากน้อยเพียงใด หากเกิดการชำรุดจะได้จัดการเปลี่ยนหัวเพลาขับใหม่เข้าไปแทนเพื่อความสมบูรณ์ในการใช้งาน เอ้า..มาเล่น “จานเบรก” กันต่อ โดยการจับจานเบรกมาแซะเอา “ซีลกันฝุ่นตัวนอก” ออกเพื่อจะได้ควักเอา “ลูกหืนล้อ” ออกมาล้างทำความสะอาดพร้อมตรวจเช็คสภาพลูกปืนอันใหม่วางลงไปจากนั้นก็หาก้อนเหล็กสี่เหลี่ยม มาวางทับบนบ่าลูกปืนพยายามเล็งให้อยู่ในระนาบเดียวกันเวลาที่ตีบ่าลูกปืนใหม่ลงไปจะได้ไม่เบี้ยวจนต้องแงะออกมาตีใหม่
จากขั้นตอนนี้ก็มาต่อกันที่ลูกปืนล้อชุดใหม่จัดการนำมายัดจาระบีโดยใช้จาระบีแบบกันน้ำได้ เอามือข้างใดข้างหนึ่งจกจาระบีขึ้นมาป้ายไว้บนสันมืออีกข้างหนึ่งแล้วนำเอาลูกปืนล้ออันใหม่ค่อย ๆ กดลงบนจาระบีจนกว่ามันจะดันทะลักขึ้นมาด้านบนแล้วค่อย ๆ หมุนเปลี่ยนมุมไปเรื่อย ๆ จนเห็นว่าจาระบีอัดแน่นเต็มลูกปืนล้อทั้งหมดเป็นอันเสร็จ
เทคนิครถยนต์: มาว่ากันถึงขั้นตอนการประกอบชิ้นส่วนต่าง ๆ กลับเข้าสู่ที่เดิมโดยเป็นการย้อนขั้นตอนจากการถอดออกมา เริ่มด้วยทาจาระบีที่บ่าลูกปืนพร้อมทั้งนำลูกปืนล้อใส่กลับเข้าไปในตำแหน่งเดิม ตามด้วยซีลกันฝุ่นต่อมาก็นำจานเบรกใส่กลับเข้าไปที่เดิม ตามด้วยลูกปืนล้อด้านนอกพร้อมน็อตล็อคตัวใน ขั้นตอนนี้ต้องใส่ใจเป็นพิเศษถ้าจะให้ดีตอนใส่น็อตเข้าไปควรใช้มือหมุนเข้าไปก่อน จากนั้นก็ใช้เครื่องมือพิเศษขันให้แน่นตามสเป็คที่ทางโรงงานผู้ผลิตรถยนต์กำหนดมา ถ้าเกิดขันน็อตล็อคแน่นเกินไปโอกาสที่ลูกปืนล้อจะไหม้ เพราะเกิดการเสียสีเกินไปก็มีมาก แต่ถ้าขันหลวมเกินไปทำให้ล้อเกิดการสั่นคลอนในขณะที่นำมาใช้งาน ถ้าไม่แน่ใจให้ลองใช้มือโยกจานเบรกพร้อมทั้งหมุนจานเบรกดูก็ช่วยได้เช่นกัน อย่าลืม “แหวนรอง” ซึ่งควรเปลี่ยนใหม่ทุกครั้งที่มีการเซอร์วิส Hub และลูกปืนล้อ รถบางคันจะไม่ใช้แหวนล็อคแบบนี้แต่จะใช้ “ปิ๊น” หรือ Pin แบบเข็มเสียบทะลุผ่านแกนเพลาขับเป็นตัวล็อคแทนน็อต เจ้า Pin นี้สามารถใช้ซ้ำหลาย ๆ ครั้งได้แต่ต้องตรวจเช็คสภาพก่อนนำกลับมาใช้งานด้วยครับ ต่อมานำน็อตตัวนอกใส่กลับเข้าไปพร้อมกับปิดซีลกันฝุ่นด้านนอกและตามด้วยเฟืองล็อค Hub กลับเข้าประจำตำแหน่งเดิม ก่อนใส่อย่าลืมหล่อลื่นด้วยจาระบีอย่างดีครับ
ต่อไปก็คือการใส่แหวนล็อคด้านนอกซึ่งจะยากนิดหน่อยเพราะเพลาขับมันพยายามดิ้นหนีเข้าด้านในแต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถ จากนี้ไปก็เป็นการตัด “ปะเก็น” สำหรับรองฝาล็อคให้เรียบร้อยตบท้ายด้วยกรทำสะอาดฝาครอบล็อคและขันน็อตยึดแต่ละตัวให้แน่นหนาเป็นอันเสร็จ
สำหรับ Hub แบบ “ปรับตั้งอัตโนมัติ” เมื่อประกอบชิ้นส่วนภายในทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเรียบร้อยแล้วก่อนจะปิดให้นำเอาผ่นลูกเบี้ยวนำมาใส่ก่อนเป็นอันดับแรกพยามจัดร่องลิ่มให้ตรงกันพอดี ถ้ายัดไม่เข้าให้ใช้ค้อนพลาสติกเคาะเบา ๆ จนกว่าแผ่นลูกเบี้ยวจะลงสนิท เอาจาระบีมาทาหล่อลื่นบริเวณจุดที่มีการเสียดสีด้านในด้านนอกของชุดคลัทช์บริเวณร่องฟันเฟืองของหัวเพลา ฟันเฟืองที่เสื้อล็อคดุมและชุดคลัทช์ให้วัดการสึกหรอของร่องแหวนล็อคด้วย “ฟิลเลอร์เกจ์” โดยการเอาแหวนล็อคมาทาบหากวัดออกมาแล้วค่ามีมากกว่า 0.1 มม. ก็ต้องมีการรองแผ่นชิมโดยเลือกเอาแผ่นที่พอดีกับค่าที่วัดได้มาใฃ้งาน เสร็จแล้วก็นำเอาชุดคลัทช์มาสวมโดยจัดปุ่มเล็อคที่ขอบของจานลูกเบี้ยวให้ลงสนิทแล้วค่อยนำแหวนล็อคใส่กลับลงไป ถ้าร่องแหวนสึกหรอให้นำแผ่นชิมมารองเข้าไปเมื่อตรวจเข็คสภาพร่องแหวนว่างลงล็อคสนิทดีหรือไม่ ให้นำไขควงปากแบนมาช่วยกดรอบ ๆ และเป็นการตรวจเช็คความตึงของแหวนล็อคไปในตัว เสร็จแล้วค่อยนำเอาเสื้อล็อคดุมล้อมาประกอบกลับ ก่อนปดฝาครอบควรทา “ปะเก็นเหลว” ให้รอบหน้าสัมผัสเพื่อทำหน้าที่เป็นซีลป้องกันน้ำเข้าเวลาที่ขับรถลุยน้ำอันเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดความเสียหายกับชุดล็อคดุมล้อจบด้วยการนำน็อตยึดมาใส่แล้วขันให้แน่นแค่พอตึงมือ