เคล็ดลับซื้อรถมือสอง รวมเทคนิคและวิธีการเลือกซื้อรถมือสอง คลิก!! More

บทความใหม่

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ MITSUBISHI แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ MITSUBISHI แสดงบทความทั้งหมด
มิตซูฯ เปิดตัว “มิราจ” ใหม่ บุกตลาดอีโค คาร์ เคาะราคาเริ่มต้น 380,000 บาท

 
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เปิดตัว  มิตซูบิชิ “มิราจ” ใหม่ รถยนต์ขนาดเล็กประหยัดพลังงานรุ่นแรกของบริษัทฯ กับราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 380,000 บาท ถึง 546,000 บาท พร้อมดึง “นิชคุณ” เป็นพรีเซ็นเตอร์ มาพร้อมแคมเปญพิเศษในช่วงเปิดตัว รับฟรีประกันภัยชั้น 1 “ไดมอนด์ อินชัวรันซ์” และรับโบนัสพิเศษเงินคืน 10,000 บาท เฉพาะลูกค้า 9,000 ท่านแรกเท่านั้น

 



นายโอซามุ มาสุโกะ ประธาน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น พร้อมด้วย นายโนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดงานแนะนำรถยนต์มิตซูบิชิ  “มิราจ” ใหม่ อย่างเป็นทางการกับสื่อมวลชนชาวไทยและต่างประเทศ ขึ้น ณ บีซีซี ฮอล์  กรุงเทพ โดยมีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการกับสาธารณชนเป็นครั้งแรกของโลกในเมืองไทยในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 33 ซึ่งจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 28 มีนาคม ถึง 8 เมษายนนี้

 


 

มิตซูบิชิ “มิราจ” ใหม่  เป็นรถยนต์ขนาดเล็กประหยัดพลังงานรุ่นแรกในสายผลิตภัณฑ์ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่ถูกผลิตขึ้นภายใต้โครงการโกลบอล สมอลล์ ที่สามารถตอบสนองความต้องการรถยนต์ของตลาดในประเทศเศรษฐกิจใหม่ที่มีความต้องการรถยนต์สูงขึ้น รวมไปถึงในประเทศที่พัฒนาแล้วซึ่งมีความสนใจในรถยนต์ขนาดเล็กตามแนวโน้มด้านพลังงานและความตื่นตัวเรื่องสิ่งแวดล้อม

 


 

นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติสอดคล้องกับโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล หรือ อีโค คาร์ ของรัฐบาลไทย โดย “มิราจ” จะถูกผลิตจากโรงงานใหม่แห่งที่ 3 ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในประเทศไทย ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ซึ่งถือเป็นฐานการผลิตใหญ่ที่สุดของบริษัทฯ รองจากประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้ภายหลังจากการแนะนำอย่างเป็นทางการครั้งแรกของโลกในเมืองไทย มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น มีแผนจะส่ง “มิราจ” ไปจำหน่ายยังประเทศต่างๆ ทั้งในภูมิภาคอาเซียน ญี่ปุ่น รวมไปถึงภูมิภาคยุโรป
 

 

 



“เราพัฒนา มิตซูบิชิ “มิราจ” ใหม่ ขึ้น เพื่อให้เป็นรถที่มีความสมดุลทั้งสมรรถนะและฟังก์ชั่นการใช้งาน จากความพยายามในการลดน้ำหนักของตัวรถรวมไปถึงการพัฒนารถขึ้นมาบนแพลทฟอร์มใหม่ทั้งหมดเพื่อโดยเน้นการประหยัดน้ำมันจากโครงสร้างเหล็กความแข็งแรงสูง High tensile steel ซึ่งมีน้ำหนักเบาแต่ใความแข็งแกร่งสูงกว่าเหล็กทั่วไป สอดคล้องกับการออกแบบตัวถังตามหลักอากาศพลศาสตร์ ส่งผลให้ มิตซูบิชิ “มิราจ” ใหม่ เป็นรถที่ให้การประหยัดน้ำมันสูงสุดในรถระดับเดียวกันโดยมีอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 22 กิโลเมตรต่อลิตร”
 

 

 

“ผมมั่นใจว่าด้วยความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์ทั้งในด้านสมรรถนะและความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมประกอบกับศักยภาพของโรงงาน ความสามารถของพนักงานคนไทย ตลอดจนแรงสนับสนุนเป็นอย่างดีจากรัฐบาลไทย จะทำให้การแนะนำรถรุ่นนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี” นายมาสุโกะ กล่าว
 

 


 
•  “มิราจ” โดดเด่นด้วยการออกแบบเพื่อให้การประหยัดน้ำมันสูงสุด และง่ายต่อการขับขี่ตามแบบฉบับของรถยนต์ขนาดเล็กแต่ให้ความสะดวกสบายด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวางรับกับฟังก์ชั่นการใช้งานพร้อมการจัดวางพื้นที่ห้องโดยสารให้สามารถรองรับผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่ได้ 5 ที่นั่ง

• ให้ความปลอดภัยสูงสุดจากการเพิ่มประสิทธิภาพของโครงสร้างตัวถังด้วยส่วนรับแรงกระแทกผลิตจากเหล็กที่มีความแข็งแรงเป็นพิเศษ “High-tensile steel”  สูงสุดที่ 980 MPc ประกอบกับเทคโนโลยีการลดน้ำหนักของตัวรถทำให้มีน้ำหนักโดยรวมลดลง 7% มาอยู่ที่ 825-870 กิโลกรัม
 

 

 

 
• โครงสร้างตัวถังแบบ RISE Body ช่วยซับและลดแรงกระแทกจากการชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 
• ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ MIVEC ใหม่ส่งผลต่อการประหยัดน้ำมันสูงสุดของรถพร้อมปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยที่สุดในรถระดับเดียวกัน
 


 

 


เครื่องยนต์ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร พร้อมระบบ MIVEC โดยมีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อนด้วยเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ CVT  และมีอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 22 กิโลเมตร ต่อ ลิตร  สอดคล้องกับข้อกำหนดทางเทคนิคของรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล หรือ อีโค คาร์ ของรัฐบาลไทย



มิตซูบิชิ “มิราจ” ใหม่ มีทั้งหมด 5 รุ่นหลัก โดยตั้งราคาขายเริ่มต้นอยู่ที่ 380,000  - 546,000 บาท

          รุ่นรถ                                ราคา
(1)   GLS Ltd. เกียร์อัตโนมัติ     546,000  บาท
(2)   GLS       เกียร์อัตโนมัติ     506,000  บาท
(3)   GLX       เกียร์อัตโนมัติ     460,000  บาท
(4)   GLX       เกียร์ธรรมดา      426,000  บาท
(5)   GL          เกียร์ธรรมดา     380,000  บาท

* ราคาเพิ่ม 5,000 บาทสำหรับสีขาวมุก ไวท์เพิร์ล (White Pearl)


สีตัวถัง 

(1)    สีขาวมุก      -   White Pearl*   
(2)    สีเหลือง      -   Lemonade Yellow Metallic
(3)    สีเขียว        -   Pop Green Metallic
(4)    สีแดง         -   Red Metallic
(5)    สีฟ้า          -   Cerulean Blue  Mica
(6)    สีเทาดำ      -   Eisen Gray Mica
(7)    สีดำ          -   Black Mica
(8)    สีเงิน        -   Cool Silver

* ราคาเพิ่ม 5,000 บาท สำหรับสีขาวมุก “ไวท์เพิร์ล”


สำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์มิตซูบิชิ “มิราจ” ทุกรุ่น ในช่วงเปิดตัว จำนวนจำกัด รับฟรีประกันภัยชั้น 1 “ไดมอนด์ อินชัวรันซ์” และรับโบนัสพิเศษเงินคืน 10,000 บาท เฉพาะลูกค้า 9,000 ท่านแรกเท่านั้น


ทั้งนี้ หากซื้อรถยนต์มิตซูบิชิ “มิราจ” ใหม่ ทุกรุ่น ในช่วงระยะเวลาตามประกาศของรัฐบาลจะได้รับสิทธิ์คืนเงินภาษีจากนโยบายลดภาษีรถยนต์คันแรกของรัฐบาลด้วย
 

ด้วยศักยภาพและความพร้อมของโรงงานมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในประเทศไทย ทำให้มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ตัดสินใจเลือกประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถมิตซูบิชิ “มิราจ” ใหม่  เพื่อการส่งออกไปยังภูมิภาคต่างๆ  ทั่วโลก ทั้งนี้ ภายหลังจากการแนะนำรถเป็นครั้งแรกในบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ในประเทศไทยแล้ว  มิตซูบิชิ มอเตอร์ส มีแผนจะทยอยเปิดตัวรถรุ่นดังกล่าวในภูมิภาคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น อาเซียน ญี่ปุ่น รวมถึงประเทศในทวีปยุโรป


ที่มา: มติชนออนไลน์ (via: ประชาชาติธุรกิจ)
MITSUBISHI

มิตซูฯ เปิดตัว “มิราจ” ใหม่ บุกตลาดอีโค คาร์

rutchapong  |  at   04:40

มิตซูฯ เปิดตัว “มิราจ” ใหม่ บุกตลาดอีโค คาร์ เคาะราคาเริ่มต้น 380,000 บาท

 
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เปิดตัว  มิตซูบิชิ “มิราจ” ใหม่ รถยนต์ขนาดเล็กประหยัดพลังงานรุ่นแรกของบริษัทฯ กับราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 380,000 บาท ถึง 546,000 บาท พร้อมดึง “นิชคุณ” เป็นพรีเซ็นเตอร์ มาพร้อมแคมเปญพิเศษในช่วงเปิดตัว รับฟรีประกันภัยชั้น 1 “ไดมอนด์ อินชัวรันซ์” และรับโบนัสพิเศษเงินคืน 10,000 บาท เฉพาะลูกค้า 9,000 ท่านแรกเท่านั้น

 



นายโอซามุ มาสุโกะ ประธาน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น พร้อมด้วย นายโนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดงานแนะนำรถยนต์มิตซูบิชิ  “มิราจ” ใหม่ อย่างเป็นทางการกับสื่อมวลชนชาวไทยและต่างประเทศ ขึ้น ณ บีซีซี ฮอล์  กรุงเทพ โดยมีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการกับสาธารณชนเป็นครั้งแรกของโลกในเมืองไทยในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 33 ซึ่งจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 28 มีนาคม ถึง 8 เมษายนนี้

 


 

มิตซูบิชิ “มิราจ” ใหม่  เป็นรถยนต์ขนาดเล็กประหยัดพลังงานรุ่นแรกในสายผลิตภัณฑ์ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่ถูกผลิตขึ้นภายใต้โครงการโกลบอล สมอลล์ ที่สามารถตอบสนองความต้องการรถยนต์ของตลาดในประเทศเศรษฐกิจใหม่ที่มีความต้องการรถยนต์สูงขึ้น รวมไปถึงในประเทศที่พัฒนาแล้วซึ่งมีความสนใจในรถยนต์ขนาดเล็กตามแนวโน้มด้านพลังงานและความตื่นตัวเรื่องสิ่งแวดล้อม

 


 

นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติสอดคล้องกับโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล หรือ อีโค คาร์ ของรัฐบาลไทย โดย “มิราจ” จะถูกผลิตจากโรงงานใหม่แห่งที่ 3 ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในประเทศไทย ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ซึ่งถือเป็นฐานการผลิตใหญ่ที่สุดของบริษัทฯ รองจากประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้ภายหลังจากการแนะนำอย่างเป็นทางการครั้งแรกของโลกในเมืองไทย มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น มีแผนจะส่ง “มิราจ” ไปจำหน่ายยังประเทศต่างๆ ทั้งในภูมิภาคอาเซียน ญี่ปุ่น รวมไปถึงภูมิภาคยุโรป
 

 

 



“เราพัฒนา มิตซูบิชิ “มิราจ” ใหม่ ขึ้น เพื่อให้เป็นรถที่มีความสมดุลทั้งสมรรถนะและฟังก์ชั่นการใช้งาน จากความพยายามในการลดน้ำหนักของตัวรถรวมไปถึงการพัฒนารถขึ้นมาบนแพลทฟอร์มใหม่ทั้งหมดเพื่อโดยเน้นการประหยัดน้ำมันจากโครงสร้างเหล็กความแข็งแรงสูง High tensile steel ซึ่งมีน้ำหนักเบาแต่ใความแข็งแกร่งสูงกว่าเหล็กทั่วไป สอดคล้องกับการออกแบบตัวถังตามหลักอากาศพลศาสตร์ ส่งผลให้ มิตซูบิชิ “มิราจ” ใหม่ เป็นรถที่ให้การประหยัดน้ำมันสูงสุดในรถระดับเดียวกันโดยมีอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 22 กิโลเมตรต่อลิตร”
 

 

 

“ผมมั่นใจว่าด้วยความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์ทั้งในด้านสมรรถนะและความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมประกอบกับศักยภาพของโรงงาน ความสามารถของพนักงานคนไทย ตลอดจนแรงสนับสนุนเป็นอย่างดีจากรัฐบาลไทย จะทำให้การแนะนำรถรุ่นนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี” นายมาสุโกะ กล่าว
 

 


 
•  “มิราจ” โดดเด่นด้วยการออกแบบเพื่อให้การประหยัดน้ำมันสูงสุด และง่ายต่อการขับขี่ตามแบบฉบับของรถยนต์ขนาดเล็กแต่ให้ความสะดวกสบายด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวางรับกับฟังก์ชั่นการใช้งานพร้อมการจัดวางพื้นที่ห้องโดยสารให้สามารถรองรับผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่ได้ 5 ที่นั่ง

• ให้ความปลอดภัยสูงสุดจากการเพิ่มประสิทธิภาพของโครงสร้างตัวถังด้วยส่วนรับแรงกระแทกผลิตจากเหล็กที่มีความแข็งแรงเป็นพิเศษ “High-tensile steel”  สูงสุดที่ 980 MPc ประกอบกับเทคโนโลยีการลดน้ำหนักของตัวรถทำให้มีน้ำหนักโดยรวมลดลง 7% มาอยู่ที่ 825-870 กิโลกรัม
 

 

 

 
• โครงสร้างตัวถังแบบ RISE Body ช่วยซับและลดแรงกระแทกจากการชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 
• ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ MIVEC ใหม่ส่งผลต่อการประหยัดน้ำมันสูงสุดของรถพร้อมปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยที่สุดในรถระดับเดียวกัน
 


 

 


เครื่องยนต์ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร พร้อมระบบ MIVEC โดยมีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อนด้วยเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ CVT  และมีอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 22 กิโลเมตร ต่อ ลิตร  สอดคล้องกับข้อกำหนดทางเทคนิคของรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล หรือ อีโค คาร์ ของรัฐบาลไทย



มิตซูบิชิ “มิราจ” ใหม่ มีทั้งหมด 5 รุ่นหลัก โดยตั้งราคาขายเริ่มต้นอยู่ที่ 380,000  - 546,000 บาท

          รุ่นรถ                                ราคา
(1)   GLS Ltd. เกียร์อัตโนมัติ     546,000  บาท
(2)   GLS       เกียร์อัตโนมัติ     506,000  บาท
(3)   GLX       เกียร์อัตโนมัติ     460,000  บาท
(4)   GLX       เกียร์ธรรมดา      426,000  บาท
(5)   GL          เกียร์ธรรมดา     380,000  บาท

* ราคาเพิ่ม 5,000 บาทสำหรับสีขาวมุก ไวท์เพิร์ล (White Pearl)


สีตัวถัง 

(1)    สีขาวมุก      -   White Pearl*   
(2)    สีเหลือง      -   Lemonade Yellow Metallic
(3)    สีเขียว        -   Pop Green Metallic
(4)    สีแดง         -   Red Metallic
(5)    สีฟ้า          -   Cerulean Blue  Mica
(6)    สีเทาดำ      -   Eisen Gray Mica
(7)    สีดำ          -   Black Mica
(8)    สีเงิน        -   Cool Silver

* ราคาเพิ่ม 5,000 บาท สำหรับสีขาวมุก “ไวท์เพิร์ล”


สำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์มิตซูบิชิ “มิราจ” ทุกรุ่น ในช่วงเปิดตัว จำนวนจำกัด รับฟรีประกันภัยชั้น 1 “ไดมอนด์ อินชัวรันซ์” และรับโบนัสพิเศษเงินคืน 10,000 บาท เฉพาะลูกค้า 9,000 ท่านแรกเท่านั้น


ทั้งนี้ หากซื้อรถยนต์มิตซูบิชิ “มิราจ” ใหม่ ทุกรุ่น ในช่วงระยะเวลาตามประกาศของรัฐบาลจะได้รับสิทธิ์คืนเงินภาษีจากนโยบายลดภาษีรถยนต์คันแรกของรัฐบาลด้วย
 

ด้วยศักยภาพและความพร้อมของโรงงานมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในประเทศไทย ทำให้มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ตัดสินใจเลือกประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถมิตซูบิชิ “มิราจ” ใหม่  เพื่อการส่งออกไปยังภูมิภาคต่างๆ  ทั่วโลก ทั้งนี้ ภายหลังจากการแนะนำรถเป็นครั้งแรกในบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ในประเทศไทยแล้ว  มิตซูบิชิ มอเตอร์ส มีแผนจะทยอยเปิดตัวรถรุ่นดังกล่าวในภูมิภาคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น อาเซียน ญี่ปุ่น รวมถึงประเทศในทวีปยุโรป


ที่มา: มติชนออนไลน์ (via: ประชาชาติธุรกิจ)

ใกล้จะมาเต็มทีแล้วนะสำหรับรถยนต์อีโค่คาร์ อีหนึ่งจากค่ายรถยนต์ Mitsubishi ที่ล่าสุด ส่งราคามาขอวาดลวดลาย ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในช่วงสัปดาห์หน้า โค้งสุดท้าย ก่อนงานมอเตอร์โชว์ 2012
นาย โนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทยจำกัดเปิดเผยข้อมูลการขายรถยนต์มิตซูบิชิ "มิราจ"ใหม่ ซึ่งมีกำหนดเปิดขายอย่างเป็นทางการครั้งแรกของโลกในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 33 ในระหว่างวันที่ 28 มีนาคม ถึง 8 เมษายน 2555 โดยครั้งนี้มาพร้อมราคาขาย ที่เริ่มตั้งแต่ 380,000 บาท และ สูงสุดที่ 546 ,000 บาท นอกจากนี้ ยังสามารถรับสิทธิประโยชน์จากนโยบาย "รถคันแรก" ของรัฐบาล สูงสุด 79,000 บาท
Mitsubishi Mirage

โดย รถแต่ละรุ่นจะมาพร้อมราคาจำหน่าย ดังนี้

รุ่นรถ

ราคา

(1)
GLD Ltd.
เกียร์อัตโนมัติ
546,000 บาท
(2)
GLS
เกียร์อัตโนมัติ
506,000 บาท
(3)
GLX
เกียร์อัตโนมัติ
460,000 บาท
(4)
GLX
เกียร์ธรรมดา
426,000 บาท
(5)
GL
เกียร์ธรรมดา
380,000 บาท
  • ราคาเพิ่ม 5,000 บาทสำหรับสีขาวมุก ไวท์เพิร์ล (White Pearl)
พร้อมกันนี้ ทางมิตซูบิชิ ยังได้เปิดเผยฟังชั่นในรถแต่ละรุ่นของ ว่าที่อีโค่คาร์ Mitsubishi Mirage เอาเป็นว่าใครที่สนใจ อยู่ ดูได้จากคารางข้างล่างเลย
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
1 Mitsubishi Mirage GLS Ltd. เกียร์อัตโนมัติ
-    ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
-    วิทยุ-เครื่องเล่นดีวีดี เอ็มพี 3 พร้อมจอภาพแบบ Touch Screen ขนาด 7 นิ้ว
และ USB สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง
-    ระบบนำทางในรถยนต์ (Navigation System)
-    ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth)
2 Mitsubishi Mirage GLSเกียร์อัตโนมัติ
-    ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
-    ไฟตัดหมอกหน้า
-    ล้ออัลลอยขนาด 14 นิ้ว
-    สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบLED
-    ระบบกุญแจอัจฉริยะ KOS พร้อมระบบกุญแจป้องกันการโจรกรรม
-    ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์
3 Mitsubishi Mirage GLX เกียร์อัตโนมัติ
-     ABS/EBD
-    กุญแจรีโมท
-    กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้า
-    กระจกไฟฟ้าพร้อมระบบปรับขึ้นลงอัตโนมัติและระบบ Safety (ด้านคนขับ)
4 Mitsubishi Mirage GLX เกียร์ธรรมดา
-    พนักพิงศีรษะสำหรับเบาะนั่งด้านหน้าและด้านหลังแบบปรับสูงต่ำได้
-    เบาะนั่งหลังปรับพับแบบ 60:40
-    วิทยุ-เครื่องเล่นซีดี เอ็มพี 3 พร้อมช่อง AUX-inและ USB สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง
5 Mitsubishi Mirage GL เกียร์ธรรมดา
-    ถุงลมนิรภัยด้านคนขับ
-    กระจกไฟฟ้าเฉพาะคู่หน้า
-    การตกแต่งภายในแบบ Piano black
-    จอแสดงข้อมูลอเนกประสงค์
MITSUBISHI

ค่ายรถยี่ห้อ Mitsubishi จัดหนักเปิดราคา Mirage เริ่ม 3.8 แสน

rutchapong  |  at   02:34

ใกล้จะมาเต็มทีแล้วนะสำหรับรถยนต์อีโค่คาร์ อีหนึ่งจากค่ายรถยนต์ Mitsubishi ที่ล่าสุด ส่งราคามาขอวาดลวดลาย ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในช่วงสัปดาห์หน้า โค้งสุดท้าย ก่อนงานมอเตอร์โชว์ 2012
นาย โนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทยจำกัดเปิดเผยข้อมูลการขายรถยนต์มิตซูบิชิ "มิราจ"ใหม่ ซึ่งมีกำหนดเปิดขายอย่างเป็นทางการครั้งแรกของโลกในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 33 ในระหว่างวันที่ 28 มีนาคม ถึง 8 เมษายน 2555 โดยครั้งนี้มาพร้อมราคาขาย ที่เริ่มตั้งแต่ 380,000 บาท และ สูงสุดที่ 546 ,000 บาท นอกจากนี้ ยังสามารถรับสิทธิประโยชน์จากนโยบาย "รถคันแรก" ของรัฐบาล สูงสุด 79,000 บาท
Mitsubishi Mirage

โดย รถแต่ละรุ่นจะมาพร้อมราคาจำหน่าย ดังนี้

รุ่นรถ

ราคา

(1)
GLD Ltd.
เกียร์อัตโนมัติ
546,000 บาท
(2)
GLS
เกียร์อัตโนมัติ
506,000 บาท
(3)
GLX
เกียร์อัตโนมัติ
460,000 บาท
(4)
GLX
เกียร์ธรรมดา
426,000 บาท
(5)
GL
เกียร์ธรรมดา
380,000 บาท
  • ราคาเพิ่ม 5,000 บาทสำหรับสีขาวมุก ไวท์เพิร์ล (White Pearl)
พร้อมกันนี้ ทางมิตซูบิชิ ยังได้เปิดเผยฟังชั่นในรถแต่ละรุ่นของ ว่าที่อีโค่คาร์ Mitsubishi Mirage เอาเป็นว่าใครที่สนใจ อยู่ ดูได้จากคารางข้างล่างเลย
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
1 Mitsubishi Mirage GLS Ltd. เกียร์อัตโนมัติ
-    ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
-    วิทยุ-เครื่องเล่นดีวีดี เอ็มพี 3 พร้อมจอภาพแบบ Touch Screen ขนาด 7 นิ้ว
และ USB สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง
-    ระบบนำทางในรถยนต์ (Navigation System)
-    ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth)
2 Mitsubishi Mirage GLSเกียร์อัตโนมัติ
-    ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
-    ไฟตัดหมอกหน้า
-    ล้ออัลลอยขนาด 14 นิ้ว
-    สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบLED
-    ระบบกุญแจอัจฉริยะ KOS พร้อมระบบกุญแจป้องกันการโจรกรรม
-    ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์
3 Mitsubishi Mirage GLX เกียร์อัตโนมัติ
-     ABS/EBD
-    กุญแจรีโมท
-    กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้า
-    กระจกไฟฟ้าพร้อมระบบปรับขึ้นลงอัตโนมัติและระบบ Safety (ด้านคนขับ)
4 Mitsubishi Mirage GLX เกียร์ธรรมดา
-    พนักพิงศีรษะสำหรับเบาะนั่งด้านหน้าและด้านหลังแบบปรับสูงต่ำได้
-    เบาะนั่งหลังปรับพับแบบ 60:40
-    วิทยุ-เครื่องเล่นซีดี เอ็มพี 3 พร้อมช่อง AUX-inและ USB สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง
5 Mitsubishi Mirage GL เกียร์ธรรมดา
-    ถุงลมนิรภัยด้านคนขับ
-    กระจกไฟฟ้าเฉพาะคู่หน้า
-    การตกแต่งภายในแบบ Piano black
-    จอแสดงข้อมูลอเนกประสงค์



Mitsubishi Global Small รถมิตซูบิชิอีโค่คาร์

อีกไม่นานเกินรอก็จะได้เห็นรถประหยัดน้ำมันหรือรถอีโค่คาร์(Eco Car) จากค่ายมิตซูบิชิกันแล้วครับ ซึ่งล่าสุดได้มีคลิปโปรโมทรถ Mitsubishi Global Small ออกมา นับว่าเป็นที่ตื่นตาตื่นใจสำหรับผู้ที่เฝ้ารอคอยเป็นอย่างมาก ด้วยรูปทรงที่ดูทันสมัย เล็กกระทัดรัด ปราดเปรียบ และก็ประหยัดน้ำมันกว่า 20 กม./ลิตร ไม่แพ้รถ Nissan March รถอีโค่คาร์รุ่นแรกที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย

ก่อนหน้านี้ในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมาเราเคยได้พาทุกท่านไปชมว่าที่รถ เล็กอีกหนึ่งอีโค่คาร์ที่กำลังจะมาที่กำหนดการลงตลาดอย่างเป็นทางการในช่วง ต้นปีหน้า ที่วันนี้มิตซูบิชิจัดให้อีกครั้งด้วยการแสดงท่วงท่าผ่านคลิปวีดีโอใหม่ล่า สุดที่น่าสนใจ


คลิปนี้ถือเป็นคลิปวีดีโอที่แสดงถึงความเป็นตัวตนของ Global Small Car ว่าที่น้องใหม่อีโค่คาร์คันล่าสุดที่กำลังจะวางตลาดในไม่ช้านี้ ซึ่งทางค่ายทรีไดมอนด์ได้ชุดเด่นใหญ่ๆ ของรถรุ่นนี้ผ่านคลิปที่ให้ความน่าสนใจยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ Mitsubishi Global small car มี กำหนดวางจำหน่ายในช่วงต้นปีหน้า ที่คาดว่าในปลายปีนี้เราจะได้พบเวอร์ชั่นจำหน่ายจริงออกมาโชว์ตัวในงานปลาย ปี ส่วนตัวจริงๆของ เจ้าตัวเล็กค่ายนี้จะงานแค่ไหนนั้นต้องจับตาดูกันต่อไป
MITSUBISHI

Mitsubishi Global Small รถอีโค่คาร์ของมิตซูบิชิ

rutchapong  |  at   07:07



Mitsubishi Global Small รถมิตซูบิชิอีโค่คาร์

อีกไม่นานเกินรอก็จะได้เห็นรถประหยัดน้ำมันหรือรถอีโค่คาร์(Eco Car) จากค่ายมิตซูบิชิกันแล้วครับ ซึ่งล่าสุดได้มีคลิปโปรโมทรถ Mitsubishi Global Small ออกมา นับว่าเป็นที่ตื่นตาตื่นใจสำหรับผู้ที่เฝ้ารอคอยเป็นอย่างมาก ด้วยรูปทรงที่ดูทันสมัย เล็กกระทัดรัด ปราดเปรียบ และก็ประหยัดน้ำมันกว่า 20 กม./ลิตร ไม่แพ้รถ Nissan March รถอีโค่คาร์รุ่นแรกที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย

ก่อนหน้านี้ในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมาเราเคยได้พาทุกท่านไปชมว่าที่รถ เล็กอีกหนึ่งอีโค่คาร์ที่กำลังจะมาที่กำหนดการลงตลาดอย่างเป็นทางการในช่วง ต้นปีหน้า ที่วันนี้มิตซูบิชิจัดให้อีกครั้งด้วยการแสดงท่วงท่าผ่านคลิปวีดีโอใหม่ล่า สุดที่น่าสนใจ


คลิปนี้ถือเป็นคลิปวีดีโอที่แสดงถึงความเป็นตัวตนของ Global Small Car ว่าที่น้องใหม่อีโค่คาร์คันล่าสุดที่กำลังจะวางตลาดในไม่ช้านี้ ซึ่งทางค่ายทรีไดมอนด์ได้ชุดเด่นใหญ่ๆ ของรถรุ่นนี้ผ่านคลิปที่ให้ความน่าสนใจยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ Mitsubishi Global small car มี กำหนดวางจำหน่ายในช่วงต้นปีหน้า ที่คาดว่าในปลายปีนี้เราจะได้พบเวอร์ชั่นจำหน่ายจริงออกมาโชว์ตัวในงานปลาย ปี ส่วนตัวจริงๆของ เจ้าตัวเล็กค่ายนี้จะงานแค่ไหนนั้นต้องจับตาดูกันต่อไป


ทดสอบรถ Mitsubishi Triton 2011 และ Mitsubishi Pajero Sport 2011 

หลังจากที่เปิดตัว Mitsubishi Triton 2011 และ Mitsubishi Pajero Sport 2011 ได้ไม่นานก็ได้นำมาทดสอบสมรรถนะของรถทั้งสองรุ่นอย่างใกล้ชิด โดยรถที่นำมาทดสอบเป็นรุ่นเครื่องยนต์ใหม่ 2.5 วีจี เทอร์โบ โดยจัดขึ้นที่สนามทดสอบบริดสโตน จังหวัดสระบุรี

เมื่อเราเดินทางถึงสนามทดสอบ ก็มีการแนะนำข้อมูลเทคนิคต่างๆของ เครื่องยนต์ใหม่ 2.5 วีจี เทอร์โบ รหัส 4D56 โดย เครื่องตัวนี้ได้รับการปรับปรุงรายละเอียดบางจุด ได้แก่ การติดตั้งเทอร์โบแปรฝัน เพื่อเพิ่มแรงอัดอากาศด้านไอดี พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ขนาดใหญ่ด้านหน้ารถ เปลี่ยนหัวฉีดน้ำมันดีเซลจาก 6 รู เป็น 7 รู จ่ายน้ำมันที่แรงดัน 180 MPa ลูกสูบ ประกับแบริ่ง ปรับปรุงใหม่ และที่สำคัญคือแรงม้าที่เพิ่มขึ้นเป็น 178 แรงม้า ที่ 4000 รอบ/นาที ส่วนแรงบิดนั้นขึ้นอยู่กับระบบส่งกำลังถ้าเป็นเกียร์ธรรมดา 5 สปีดจะได้แรงบิดถึง 400 นิวตันเมตรที่ 2000 รอบ/นาที แต่ถ้าไปอยู่กับเกียร์อัตโนมัติ INVECS II 5 สปีดใหม่ จะได้แรงบิดที่ 350 นิวตันเมตรที่ 1800-3500 รอบ/นาที

ทดสอบรถ Mitsubishi Pajero Sport 2011 มิซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต

สำหรับความแตกต่างในระบบขับเคลื่อนของปาเจโร สปอร์ต - ไทรทัน ใหม่ คือ ปาเจโร สปอร์ตระบบขับเคลื่อน 4 ล้อจะเป็นแบบ Super-Select 4WD และเกียร์อัตโนมัติ INVECS II 5 สปีดใหม่จะมีเฉพาะรุ่น 4WD ทั้งปาเจโร สปอร์ต - ไทรทัน ส่วนรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อจะเป็นเกียร์อัตโนมัติ INVECS II 4 สปีด และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด

ปาเจโร สปอร์ต มาพร้อมสีตัวถังใหม่ "น้ำตาลทอง (Quartz Brown)" และการตกแต่งเพิ่มเติมไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าแบบ HID พร้อมระบบปรับระดับลำแสงอัตโนมัติและระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ตามสภาพแสงภายนอก และการติดตั้งระบบน้ำฉีดล้างไฟหน้ารถ รวมถึงระบบที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift ในรุ่น GT เบาะที่นั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้าได้ถึง 8 ทิศทาง ขณะที่เบาะนั่งแถวที่ 2 ปรับเลื่อนเดินหน้าและถอยหลังได้ พร้อมระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง วิทยุ ซีดี MP3 AUX in ช่องเสียบ USB ในรุ่น GLS ส่วนในรุ่น GT มาพร้อม วิทยุ DVD จอภาพ 7 นิ้ว

ไทรทัน ใหม่ ออกแบบกระบะท้ายดีไซน์ใหม่ แบบตัดตรงยาวขึ้น 180 มิลลิเมตร และสูงขึ้นอีก 57 มิลลิเมตร วิทยุ ซีดี MP3 AUX in ช่องเสียบ USB ในรุ่นซิงเกิ้ลแค็บ เมกะแค็บ ดับเบิ้ลแค็บ ขับเคลื่อน 2 ล้อ รวมไปถึงเมกะแค็บ พลัส GLX ในขณะที่รุ่น เมกะแค็บพลัส GLS และดับเบิ้ลแค็บพลัส มีการติดตั้งเครื่องเล่นวิทยุ DVD พร้อมจอภาพระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้าในรุ่นเมกะแค็บพลัส ดับเบิ้ลแค็บ พลัส และดับเบิ้ลแค็บ ขับเคลื่อน 4 ล้อ กุญแจรีโมท (Keyless) และระบบอิมโมบิไลเซอร์ (Immobilizer)
ทดสอบรถ Mitsubishi Triton 2011 มิตซูบิชิ ไทรทัน

เริ่มการทดสอบด้วยการเลือกรุ่นที่ทำการทดสอบโดยมีรถปาเจโร สปอร์ต - ไทรทัน ใหม่ทั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และ 2 ล้อ จอดรอให้เราสัมผัสรวมแล้ว 10 คัน แต่เป็นระบบเกียร์อัตโนมัติทั้งหมด โดยลักษณะการทดสอบเป็นการขับสลาลอม และหลบหลีกสิ่งกีดขวาง และทดสอบอัตราเร่งในทางตรง เป็นอันจบหนึ่งรอบในแต่ละรุ่น
จากสเปกแรงม้าที่มีมาให้ 178 แรงม้า ซึ่งถือว่ามากที่สุดในพิกัดเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ทำให้เรายิ่งอยากลองว่าพละกำลัง 178 แรงม้าจะสร้างความประทับใจให้เราได้แค่ไหน เริ่มการทดสอบด้วย ปาเจโร สปอร์ต ตัวขับเคลื่อน 4WD เกียร์อัตโนมัติ INVECS II 5 สปีด จากการได้ทดสอบขับแบบสลาลอม และหลบหลีกสิ่งกีดขวาง สามารถบังคับควบคุมง่าย พวงมาลัยน้ำหนักดี ช่วงล่างนุ่มหนึบ ระบบเบรกให้ความมั่นใจได้ อัตราเร่งที่สัมผัสได้อาจจะไม่ปรูดปราดเท่าที่ควร น่าจะมาจากน้ำหนักตัวถัง แต่ก็ให้ความรู้สึกราบเรียบดีในจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ และก็มีแอบรอรอบบางเหมือนกันในบางจังหวะ ส่วนตัวขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ INVECS II 4 สปีด สมถรรนะก็ไม่ได้แตกต่างจากตัวขับ 4 ล้อมากนัก อาจจะรู้สึกบางในจังหวะการเปลี่ยนเกียร์เล็กน้อย สำหรับอัตราเร่งออกตัวจากหยุดนิ่ง อาจจะไม่ทันอกทันใจนัก แต่ถ้าต้องใช้กำลังตอนจะเร่งแซงก็เรียกได้ว่าสามารถทำได้อย่างมั่นใจเลยทีเดียว

ส่วนการทดสอบในตัวไทรทัน จะให้ความกระฉับกระเฉงมากกว่า อาจเป็นจากน้ำหนักรถที่เบากว่าตัวปาเจโร สปอร์ต แต่ก็เป็นธรรมดาที่จะรู้สึกท้ายเบาบาง เพียงปรับการขับขี่ก็สามารถควบคุมได้มั่นใจเช่นกัน
โดยรวมแล้วจากการที่ได้สัมผัสกับเจ้าปาเจโร สปอร์ต - ไทรทัน ในช่วงสั้นๆ เวลาจำกัด อาจจะยังจับสมถรรนะอะไรมากไม่ได้นัก แต่รวมๆแล้วก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นออฟชั่นต่างๆที่อัดมาเพียบ ความสดของเครื่องยนต์ใหม่ เรียกได้ว่าใครที่เป็นแฟนมิตซูบิชิอยู่จะพลาดไม่ได้ คงต้องไปหาทดลองขับตัวเป็นๆ ด้วยตัวท่านเองที่โชว์รูมใกล้บ้านแล้วแหละครับ

หรือจะสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ให้คำปรึกษาและช่วยเหลือประสานงาน ลูกค้ามิตซูบิชิ Customer Consulting Center โทร. 1800 900 009 ฟรี เฉพาะโทรศัพท์พื้นฐาน และโทรศัพท์เคลื่อนที่เครือข่าย AIS หรือ โทร 02-529-9500 ในวันและเวลาทำการ

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

ทดลองขับ,รีวิวรถยนต์

MITSUBISHI

ทดสอบรถ Mitsubishi Triton 2011 และ Mitsubishi Pajero Sport 2011

rutchapong  |  at   09:12


ทดสอบรถ Mitsubishi Triton 2011 และ Mitsubishi Pajero Sport 2011 

หลังจากที่เปิดตัว Mitsubishi Triton 2011 และ Mitsubishi Pajero Sport 2011 ได้ไม่นานก็ได้นำมาทดสอบสมรรถนะของรถทั้งสองรุ่นอย่างใกล้ชิด โดยรถที่นำมาทดสอบเป็นรุ่นเครื่องยนต์ใหม่ 2.5 วีจี เทอร์โบ โดยจัดขึ้นที่สนามทดสอบบริดสโตน จังหวัดสระบุรี

เมื่อเราเดินทางถึงสนามทดสอบ ก็มีการแนะนำข้อมูลเทคนิคต่างๆของ เครื่องยนต์ใหม่ 2.5 วีจี เทอร์โบ รหัส 4D56 โดย เครื่องตัวนี้ได้รับการปรับปรุงรายละเอียดบางจุด ได้แก่ การติดตั้งเทอร์โบแปรฝัน เพื่อเพิ่มแรงอัดอากาศด้านไอดี พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ขนาดใหญ่ด้านหน้ารถ เปลี่ยนหัวฉีดน้ำมันดีเซลจาก 6 รู เป็น 7 รู จ่ายน้ำมันที่แรงดัน 180 MPa ลูกสูบ ประกับแบริ่ง ปรับปรุงใหม่ และที่สำคัญคือแรงม้าที่เพิ่มขึ้นเป็น 178 แรงม้า ที่ 4000 รอบ/นาที ส่วนแรงบิดนั้นขึ้นอยู่กับระบบส่งกำลังถ้าเป็นเกียร์ธรรมดา 5 สปีดจะได้แรงบิดถึง 400 นิวตันเมตรที่ 2000 รอบ/นาที แต่ถ้าไปอยู่กับเกียร์อัตโนมัติ INVECS II 5 สปีดใหม่ จะได้แรงบิดที่ 350 นิวตันเมตรที่ 1800-3500 รอบ/นาที

ทดสอบรถ Mitsubishi Pajero Sport 2011 มิซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต

สำหรับความแตกต่างในระบบขับเคลื่อนของปาเจโร สปอร์ต - ไทรทัน ใหม่ คือ ปาเจโร สปอร์ตระบบขับเคลื่อน 4 ล้อจะเป็นแบบ Super-Select 4WD และเกียร์อัตโนมัติ INVECS II 5 สปีดใหม่จะมีเฉพาะรุ่น 4WD ทั้งปาเจโร สปอร์ต - ไทรทัน ส่วนรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อจะเป็นเกียร์อัตโนมัติ INVECS II 4 สปีด และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด

ปาเจโร สปอร์ต มาพร้อมสีตัวถังใหม่ "น้ำตาลทอง (Quartz Brown)" และการตกแต่งเพิ่มเติมไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าแบบ HID พร้อมระบบปรับระดับลำแสงอัตโนมัติและระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ตามสภาพแสงภายนอก และการติดตั้งระบบน้ำฉีดล้างไฟหน้ารถ รวมถึงระบบที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift ในรุ่น GT เบาะที่นั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้าได้ถึง 8 ทิศทาง ขณะที่เบาะนั่งแถวที่ 2 ปรับเลื่อนเดินหน้าและถอยหลังได้ พร้อมระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง วิทยุ ซีดี MP3 AUX in ช่องเสียบ USB ในรุ่น GLS ส่วนในรุ่น GT มาพร้อม วิทยุ DVD จอภาพ 7 นิ้ว

ไทรทัน ใหม่ ออกแบบกระบะท้ายดีไซน์ใหม่ แบบตัดตรงยาวขึ้น 180 มิลลิเมตร และสูงขึ้นอีก 57 มิลลิเมตร วิทยุ ซีดี MP3 AUX in ช่องเสียบ USB ในรุ่นซิงเกิ้ลแค็บ เมกะแค็บ ดับเบิ้ลแค็บ ขับเคลื่อน 2 ล้อ รวมไปถึงเมกะแค็บ พลัส GLX ในขณะที่รุ่น เมกะแค็บพลัส GLS และดับเบิ้ลแค็บพลัส มีการติดตั้งเครื่องเล่นวิทยุ DVD พร้อมจอภาพระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้าในรุ่นเมกะแค็บพลัส ดับเบิ้ลแค็บ พลัส และดับเบิ้ลแค็บ ขับเคลื่อน 4 ล้อ กุญแจรีโมท (Keyless) และระบบอิมโมบิไลเซอร์ (Immobilizer)
ทดสอบรถ Mitsubishi Triton 2011 มิตซูบิชิ ไทรทัน

เริ่มการทดสอบด้วยการเลือกรุ่นที่ทำการทดสอบโดยมีรถปาเจโร สปอร์ต - ไทรทัน ใหม่ทั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และ 2 ล้อ จอดรอให้เราสัมผัสรวมแล้ว 10 คัน แต่เป็นระบบเกียร์อัตโนมัติทั้งหมด โดยลักษณะการทดสอบเป็นการขับสลาลอม และหลบหลีกสิ่งกีดขวาง และทดสอบอัตราเร่งในทางตรง เป็นอันจบหนึ่งรอบในแต่ละรุ่น
จากสเปกแรงม้าที่มีมาให้ 178 แรงม้า ซึ่งถือว่ามากที่สุดในพิกัดเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ทำให้เรายิ่งอยากลองว่าพละกำลัง 178 แรงม้าจะสร้างความประทับใจให้เราได้แค่ไหน เริ่มการทดสอบด้วย ปาเจโร สปอร์ต ตัวขับเคลื่อน 4WD เกียร์อัตโนมัติ INVECS II 5 สปีด จากการได้ทดสอบขับแบบสลาลอม และหลบหลีกสิ่งกีดขวาง สามารถบังคับควบคุมง่าย พวงมาลัยน้ำหนักดี ช่วงล่างนุ่มหนึบ ระบบเบรกให้ความมั่นใจได้ อัตราเร่งที่สัมผัสได้อาจจะไม่ปรูดปราดเท่าที่ควร น่าจะมาจากน้ำหนักตัวถัง แต่ก็ให้ความรู้สึกราบเรียบดีในจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ และก็มีแอบรอรอบบางเหมือนกันในบางจังหวะ ส่วนตัวขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ INVECS II 4 สปีด สมถรรนะก็ไม่ได้แตกต่างจากตัวขับ 4 ล้อมากนัก อาจจะรู้สึกบางในจังหวะการเปลี่ยนเกียร์เล็กน้อย สำหรับอัตราเร่งออกตัวจากหยุดนิ่ง อาจจะไม่ทันอกทันใจนัก แต่ถ้าต้องใช้กำลังตอนจะเร่งแซงก็เรียกได้ว่าสามารถทำได้อย่างมั่นใจเลยทีเดียว

ส่วนการทดสอบในตัวไทรทัน จะให้ความกระฉับกระเฉงมากกว่า อาจเป็นจากน้ำหนักรถที่เบากว่าตัวปาเจโร สปอร์ต แต่ก็เป็นธรรมดาที่จะรู้สึกท้ายเบาบาง เพียงปรับการขับขี่ก็สามารถควบคุมได้มั่นใจเช่นกัน
โดยรวมแล้วจากการที่ได้สัมผัสกับเจ้าปาเจโร สปอร์ต - ไทรทัน ในช่วงสั้นๆ เวลาจำกัด อาจจะยังจับสมถรรนะอะไรมากไม่ได้นัก แต่รวมๆแล้วก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นออฟชั่นต่างๆที่อัดมาเพียบ ความสดของเครื่องยนต์ใหม่ เรียกได้ว่าใครที่เป็นแฟนมิตซูบิชิอยู่จะพลาดไม่ได้ คงต้องไปหาทดลองขับตัวเป็นๆ ด้วยตัวท่านเองที่โชว์รูมใกล้บ้านแล้วแหละครับ

หรือจะสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ให้คำปรึกษาและช่วยเหลือประสานงาน ลูกค้ามิตซูบิชิ Customer Consulting Center โทร. 1800 900 009 ฟรี เฉพาะโทรศัพท์พื้นฐาน และโทรศัพท์เคลื่อนที่เครือข่าย AIS หรือ โทร 02-529-9500 ในวันและเวลาทำการ

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

ทดลองขับ,รีวิวรถยนต์

บทความรถยนต์ที่น่าสนใจ