เคล็ดลับซื้อรถมือสอง รวมเทคนิคและวิธีการเลือกซื้อรถมือสอง คลิก!! More

เทคนิครถยนต์: เซ็นทรัลล็อคมีปัญหาก็เปลี่ยนเองได้

เทคนิครถยนต์: เซ็นทรัลล็อคมีปัญหาก็เปลี่ยนเองได้


            หน้าที่หลังของ “เซ็นทรัลล็อค” คือการเปิด-ปิดล็อคของประตู การทำงานก็ไม่มีอะไรมากเพียงแต่เสียบกุญแจพร้อมกับบิดไปตำแหน่งเพื่อล็อคเปิดออกมาจะมีชุดมอเตอร์ไฟฟ้าฝังอยู่ที่ตัวกลไกของกลอนประตูทุกบานแต่มันจะสั่งงานให้เปิดพร้อมกันทุกบานที่ประตูฝั่งคนขับเพียงจุดเดียวเท่านั้น โดยการทำงานจะมีขุดรีเลย์คอยสั่งงานจ่ายกระแสไฟฟ้าไปยังมอเตอร์ที่ฝั่งอยู่ในประตูแต่ละบานเพื่อให้เปิดล็อค


เทคนิครถยนต์:เซ็นทรัลล็อคไม่ใช่มีแค่เพียงระบบไฟฟ้าอย่างเดียวเท่านั้น ในรถยนต์รุ่นเก่า ๆ อาทิ MERCEDES-BENZ จะใช้เซ็นทรัลล็อคแบบใช้แรงดันของแว็คคั่มเป็นตัวสั่งงานให้กระเปาะวาล์วลมที่ติดตั้งอยู่กับกลไกของชุดกลอนประตูทำหน้าที่เปิด-ปิดล็อคของประตู หลักการทำงานจะใช้แว็คคั่มจากเครื่องยนต์นำเข้าไปเก็บไว้ที่ถังพักลมซึ่งมักจะติดตั้งอยู่ในห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ เมื่อเราบิดกุญแจเพื่อจะเปิดหรือปิดล็อคประตูวาล์วของชุคแวคคั่มเซ็นทรัลล็อคก็จะสั่งงานเพื่อให้ชุดล็อคที่ประตูทำงาน แต่แบบนี้หากระบบเกิดมีปัญหาขึ้นมาจะปวดหัวกว่าแบบที่ใช้ไฟฟ้าเป็นตัวควบคุมเยอะ

            โอกาสที่เราจะได้เห็นรูปร่างหน้าตาของเซ็นทรัลล็อคไฟฟ้าก็มักจะเป็นของพวกที่นำมาติดตั้งเอาเองภายหลังซึ่งมันก็คล้าย ๆ กับของที่ติดตั้งมาให้จากโรงงานนั่นแหละครับ โดยถ้าดูจากภายนอกจะเห็นว่ามันเป็นรูปทรงแท่ง ๆ ที่ตัวเสื้อจะมีรูไว้สำหรับยึดน็อตและที่ปลายบนสุดจะมีแกนข้างในอีกอันที่ห่อหุ้มป้องกันฝุ่นด้วยซีลยางไอ้ตัวนี้สามารถเลื่อนขึ้น-ลงได้ เนื่องจากภายในของเซ็นทรัลล็อคจะเป็นชุดฟันเฟืองแบบตัวหนอนพร้อมกับมอเตอร์กระแสสลับตัวเล็ก ๆ ภายในคอยทำหน้าที่ขึ้น-ลงเพื่อสั่งการให้ขาลิ้งค์เกี่ยวปลดหรือล็อคกลไกของชุดล็อคกลอนประตูได้ โดยชิ้นส่วนและวัสดุส่วนใหญ่ของมันนิยมทำมาจากพลาสติกเหนียวแข็งแรง ทนแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี

            รถนายแบบ ISUZU เราจู่ ๆ เซ็นทรัลล็อคก็เกิดอาการเพี้ยน กดรีโมทให้เซ็นทรัลล็อคทำงาน บางทีก็ล็อค บางทีก็ไม่ล็อค เป็นอย่างนี้อยู่นานพอสมควร จนวันหนึ่งเริ่มไม่ไหวแล้ว งานนี้จึงต้องมีการลงไม้ลงมือตรวจเช็คดูว่าเซ็นทรัลล็อคป่วยเป็นอะไรกันแน่ งานนี้อาวุธหลักก็มีแค่ไขควงปากแฉก , Test Lamp (หลอดไฟเอาไว้สำหรับเสียบเช็คหากระแสไฟ) และผ้าเทปพันสายไฟ

            เริ่มแรกใช้ไขควงปากแบนถอดน็อตล็อค “ฝารองมือเปิดประตู” ด้านในออกน็อตจะมีอยู่ 1 ตัวตอนจะถอดให้เอามือง้างที่เปิดแล้วค่อย ๆ สอดไขควงเข้าไปถอดน็ตอออกมาพร้อมกับดึงฝารองมือเปิดประตูออกมาวางไว้อย่าให้น็อตหาย จากนั้นก็ใช้ไขควงอันเดิมถอดน็อตยึดมือจับที่แผงข้างประตูออก สำหรับ ISUZU มันจะมีน็อตยึดอยู่ 2 ตัวถอดออกแล้วก็หาที่วางให้ดี ตามมาด้วยงัดฝาปิดลำโพงที่ประตูหน้าออกงัดดี ๆ อย่าให้เขี้ยวล็อคหักเดี๋ยวจะยุ่ง เสร็จแล้วก็จัดการถอดน็อตยึดลำโพงออกแล้วค่อยถอดปลั๊กสายไฟของลำโพง หาที่วางดี ๆ ต่อด้วยการถอดแผงสวิทช์ควบคุมกระจกไฟฟ้าออกและอย่าลืมถอดปลั๊กด้านหลังด้วย จากนั้นค่อย ๆ เอามือแงะแผงประตูจากด้านล่างขึ้นด้านบน ค่อย ๆ ดึงเดี๋ยวหมุดยึดแผงประตูจะหัก
            เอาแผงประตูออกมาแล้วก็หาที่วางให้ดี ๆ เดี๋ยวแผงประตูจะเสียหรือน้องหมาจะมาฉี่ใส่ซะ ต่อไปจัดการเสียบสายไฟของแผงควบคุมสวิทช์กระจกไฟฟ้าเช้ากับตัวสวิทช์เนื่องจากว่าภายในแผงควบคุมจะมีสวิทช์สั่งงานระบบเซ็นทรัลล็อคที่ติดมาให้จากโรงงานเพื่อเช็คว่าเซ็นทรัลล็อคเดิมโรงงานเสียไหม เช็คไปเช็คมาของเดิมจากโรงงานไม่เสีย

            ทีนี้ก็ย้ายมาซนกับชุดเซ็นทรัลล็อคของระบบกันขโมยว่ามันเสียหรือเปล่าด้วยการกดสวิทช์เปิด-ปิดล็อคที่รีโมทดูหลาย ๆ รอบ ตามที่ท่านผู้เฒ่าบอกคือมันทำงานบ้างไม่ทำบ้าง เอาล่ะ คราวนี้ลองถอดตัวเซ็นทรัลล็อคที่ติดเพิ่มออกมาเช็คดูหน่อยดีกว่า งานนี้ไม่ยากอย่างแรกก็ถอดชุดปลั๊กไฟออก ตามด้วยการนำไขควงปากแฉกมาคลายน็อตยึดก้านลิ้งค์ที่คอยดึงขุดลิ้งค์ของกลไกล็อคประตูดันเดิม หลังจากนั้นก็นำไขควงมาถอดน็อตยึดเซ็นทรัลล็อคที่ติดกับแผงประตูด้านในออก หลังจากนั้นค่อย ๆ ถอดเจ้าเซ็นทรัลล็อคออกมา ในขณะถอดต้องคอยประคองก้านลิ้งค์ว่าเอาด้านไหนเข้า เวลาประกอบกลับจะได้ไม่เสียเวลา จำได้แล้วก็ถอดเอาด้านลิ้งค์ออกพร้อมกับนำเซ็นทรัลล็อคมาเสียบชุดสายไฟกับเข้าไป เอ้า ลองกดรีโมทให้เซ็นทรัลล็อคทำงานอีกครั้ง ลองอยู่ 2-3 เที่ยว มันก็ไม่ทำงาน สรุปว่าเซ็นทรัลล็อคเสียจริง ๆ ราคาของเซ็นทรัลล็อคชุดหนึ่งของใหม่จะประมาณ 400-500 บาท หลังจากที่นำเงินไปซื้อเซ็นทรัลล็อคตัวใหม่ที่ร้านอะไหล่แล้ว ก็นำติดตั้งลงแทนเซ็นทรัลล็อคลูกเก่า โดยชั้นตอนการประกอบก็ย้อนกลับจากวิธีการถอดนั่นแหละครับ แต่ขั้นตอนการใส่มีพิเศษมากขึ้นกว่าปกติดนิดนึงและสิ่งนี้เองที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานของเซ็นทรัลล็อคลูกใหม่ได้อีกนานพอสมควรเลยทีเดียว วิธีที่ว่าก็คือ การย้ายตำแหน่งติดตั้งเซ็นทรัลล็อคใหม่ เพราะว่าของเดิมตำแหน่งติดตั้งจะวางเอียงเล็กน้อยทำให้จังหวะที่เซ็นทรัลล็อคทำงานเพื่อเปิดล็อคชุดฟันเฟืองไม่สามารถเลื่อนแกนลงมาให้สุดได้ จังหวะที่เลื่อนลงมาสุดนี้เองที่ตัวมอเตอร์ยังทำงานอยู่ทำให้บางครั้งอาจทำให้เฟืองที่ตัวมอเตอร์ไปขบหรือปีนเฟืองตัวหนอนที่แกน ทำให้ชุดเฟืองเสียหายได้ แถมยังทำให้จังหวะการทำงานติดขัดได้ด้วย เหตุผลที่ว่าตัวเซ็นทรัลล็อคจะเป็นรูปทรงกระบอก เวลาการทำงานจะใช้วิธีเลื่อนขึ้นลง พอตำแหน่งติดตั้งเอียงก็จะส่งผลให้การทำงานเลื่อนเข้าออกมา บางทีติด ๆ ขัด ๆ เกิดความฝืดและส่งผลไปยังชุดเฟืองอย่างที่กล่าวไปเมื่อสักครู่นี้

            เทคนิครถยนต์: ขั้นตอนการย้ายตำแหน่งก็คือ เสียบสายลิ้งค์กลับเข้าไปที่ตัวลิ้งค์กลไกของชุดล็อคประตูเดิม แล้วก็จัดการวางตำแหน่งของเซ็นทรัลล็อคลูกใหม่ให้อยู่ในตำแหน่งตั้งตรง ทำให้จังหวะที่เซ็นทรัลล็อคทำงานชุดเฟืองจะหมุนเลื่อนให้แกนกลางเลื่อนลงมาอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำสุด พอจัดวางตำแหน่งใหม่แล้วก็บรรจงขันน็อตยึดเข้าไปตามเดิม โดยส่วนใหญ่แล้วรูน็อตเมื่อตั้งตำแหน่งใหม่มักจะตรงรูเดิมแค่ 1-2 รู เท่านั้นทำหใต้องมีการทำลายโครงประตูด้านในนิดหน่อยด้วยการเจาะรูใหม่ 1 รู ให้สามารถยึดน็อตล็อคเซ็นทรัลลูกใหม่ได้ หลังจากนั้นก็ลองกดรีโมทเพื่อเปิด-ปิดดูว่าเซ็นทรัลล็อคทำงานได้และคล่องตัวมากขึ้นกว่าเดิมมากน้อยเพียงใด รวมไปถึงการตรวจเช็คว่าแกนกลางของเซ็นทรัลล็อคขึ้นสุด-ลงสุดหรือไม่ ถ้าเป็นไปตามนั้นก็เป็นอันจบ ให้จัดการประกอบสิ่งต่าง ๆ ที่ถอดมาทีแรก กลับเข้าไป แต่ถ้ายังไม่ OK ก็จงถอดน็อตยึดออกแล้วหาตำแหน่งติดตั้งใหม่ให้เหมาะสม

            สำหรับเซ็นทรัลล็อคของระบบกันขโมยนี้ไม่ได้มีสิ่งใดที่ยุ่งเกี่ยวกับชุดเซ็นทรัลล็อคที่ติดตั้งมาให้จากโรงงานทำให้มั่นใจได้เลยว่าระบบไฟฟ้าจะไม่มีปัญหาหรือรบกวนกันอย่างแน่นอน งานนี้จริง ๆ แล้วสามารถทำด้วยตัวคุณเองได้ถ้ามีเวลาและรู้จักศึกษาหาวิธีแก้ไข ไม่จำเป็นต้องใช้ความรีบร้อนแต่ถ้ากลัวทำไม่ได้ก็นำรถไปเข้าศูนย์บริการหรือตามร้านประดับยนต์ให้เขาจัดการแก้ไขให้ก็ได้ครับ


           

บทความรถยนต์ที่น่าสนใจ