เทคนิครถยนต์ : ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ "การประกันภัยรถยนต์"
สำหรับประกันภัยรถยนต์ซึ่งปรกติรถยนต์ป้ายแดงจะโดนบังคับให้ทำอย่างน้อย 1 ปีอยู่แล้ว หลังจากนั้นจะเปลี่ยน ย้ายไปทำประกันภัยที่อื่น ๆ ก็ได้ตามแต่โปรโมชั่นของประกันภัยบริษัทไหนถูกใจน่าสนใจมากกว่า การประกันภัยรถยนต์แบบใหม่ แยกออกเป็น 2 แบบ การประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ หรือที่คนส่วนใหญ่ เรียกกันว่า "ประกัน พ.ร.บ."
เป็นการประกันภัยรถยนต์ที่กฎหมายบังคับให้รถทุกคัน ทุกประเภท ต้องทำประกันภัยใครไม่ทำมีความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครอง ผู้ประสบภัยจากรถพ.ศ. 2535 ต้องถูกปรับเป็นเงินไม่เกิน 10,000 บาท การประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ เป็นการประกันภัยที่ใครอยากทำก็ทำ ไม่มีการบังคับกันการเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจนี้ เป็นการตกลง ระหว่าง ผู้ซื้อ(ผู้เอาประกันภัย) และผู้ขาย (บริษัทประกันภัย) โดยสามารถเลือกซื้อความคุ้มครอบได้ตามต้องการ และตาม กำลังเงินที่มีอยู่ และเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ทำ ประกันภัยที่ขับรถดี มีความระมัดระวังในการขับขี่ และมี ความเสี่ยงภัยในการใช้รถต่ำ
เป็นการประกันภัยรถยนต์ที่กฎหมายบังคับให้รถทุกคัน ทุกประเภท ต้องทำประกันภัยใครไม่ทำมีความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครอง ผู้ประสบภัยจากรถพ.ศ. 2535 ต้องถูกปรับเป็นเงินไม่เกิน 10,000 บาท การประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ เป็นการประกันภัยที่ใครอยากทำก็ทำ ไม่มีการบังคับกันการเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจนี้ เป็นการตกลง ระหว่าง ผู้ซื้อ(ผู้เอาประกันภัย) และผู้ขาย (บริษัทประกันภัย) โดยสามารถเลือกซื้อความคุ้มครอบได้ตามต้องการ และตาม กำลังเงินที่มีอยู่ และเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ทำ ประกันภัยที่ขับรถดี มีความระมัดระวังในการขับขี่ และมี ความเสี่ยงภัยในการใช้รถต่ำ
[เทคนิครถยนต์]
ประเภทของกรมธรรม์ มีความคุ้มครองให้เลือก 3 ประเภท คือ
ประเภทที่ 1 (ชั้น 1) ให้ความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุดดังนี้
- ความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอกและผู้โดยสารในรถ
- ความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
- ความรับผิดต่อความเสียหายของตัวรถยนต์ด้านเอาประกันภัย
- ความรับผิดต่อความสูญหายและไฟไหม้ของตัวรถยนต์ด้านเอาประกันภัย
ประเภทที่ 2 (ชั้น2) ผู้ทำประกันภัยประเภทนี้จะได้รับความคุ้มครอง ดังนี้
- ความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอกและผู้โดยสารในรถ
- ความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
- ความรับผิดต่อความสูญหายและไฟไหม้ของตัวรถยนต์ด้านเอาประกันภัย
ประเภทที่3 (ชั้น3) ซึ่งเป็นประเภทที่ให้ความคุ้มครองเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอก ดังนี้
- ความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอกและผู้โดยสารในรถ
- ความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
[เทคนิครถยนต์]
แบบของกรมธรรม์ แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ
1.แบบไม่ระบุชื่อ กรมธรรม์แบบเดิมที่คุ้มครองผู้ขับขี่ คนใดก็ได้ที่ผู้เอาประกันภัยยินยอมให้ขับขี่รถเสมือนหนึ่ง เป็นผู้เอาประกันภัย
2.แบบระบุชื่อผู้ขับขี่ กรมธรรม์แบบใหม่ที่นำอายุผู้ขับขี่ มาเป็นองค์ประกอบในการกำหนดอัตราเบี้ยประกันภัย และคุ้มครองผู้ขับขี่รถตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ กรณี บุคคลที่มิได้ระบุชื่อมาขับขี่ก็ได้รับความคุ้มครองแต่ ผู้เอาประกันภัยต้องร่วมรับผิดชอบต่อค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ของอุบัติเหตุแต่ละครั้งด้วย กรมธรรม์แบบนี้ผู้เอาประกันภัย ต้องเป็นบุคคลที่ใช้รถส่วนบุคคล และสามารถระบุชื่อผู้ขับขี่ได้ไม่เกิน 2 คน โดยจะได้รับส่วนลดค่าประกันภัยตามช่วง อายุของผู้ขับขี่ ดังนี้
อายุ 18-24 ปี ระบุชื่อผู้ขับขี่ 2 คน ลดเบี้ย 5%
อายุ 25-35 ปี ระบุชื่อผู้ขับขี่ 2 คน ลดเบี้ย 10%
อายุ 36-50 ปี ระบุชื่อผู้ขับขี่ 2 คน ลดเบี้ย 20%
อายุ 50ปีขึ้นไป ระบุชื่อผู้ขับขี่ 2 คน ลดเบี้ย 15%
1.แบบไม่ระบุชื่อ กรมธรรม์แบบเดิมที่คุ้มครองผู้ขับขี่ คนใดก็ได้ที่ผู้เอาประกันภัยยินยอมให้ขับขี่รถเสมือนหนึ่ง เป็นผู้เอาประกันภัย
2.แบบระบุชื่อผู้ขับขี่ กรมธรรม์แบบใหม่ที่นำอายุผู้ขับขี่ มาเป็นองค์ประกอบในการกำหนดอัตราเบี้ยประกันภัย และคุ้มครองผู้ขับขี่รถตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ กรณี บุคคลที่มิได้ระบุชื่อมาขับขี่ก็ได้รับความคุ้มครองแต่ ผู้เอาประกันภัยต้องร่วมรับผิดชอบต่อค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ของอุบัติเหตุแต่ละครั้งด้วย กรมธรรม์แบบนี้ผู้เอาประกันภัย ต้องเป็นบุคคลที่ใช้รถส่วนบุคคล และสามารถระบุชื่อผู้ขับขี่ได้ไม่เกิน 2 คน โดยจะได้รับส่วนลดค่าประกันภัยตามช่วง อายุของผู้ขับขี่ ดังนี้
อายุ 18-24 ปี ระบุชื่อผู้ขับขี่ 2 คน ลดเบี้ย 5%
อายุ 25-35 ปี ระบุชื่อผู้ขับขี่ 2 คน ลดเบี้ย 10%
อายุ 36-50 ปี ระบุชื่อผู้ขับขี่ 2 คน ลดเบี้ย 20%
อายุ 50ปีขึ้นไป ระบุชื่อผู้ขับขี่ 2 คน ลดเบี้ย 15%
(ใช้อัตราส่วนลดของอายุผู้ขับขี่ที่มีความเสี่ยงภัยสูงกว่า)
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของประกันภัยรถยนต์
การทำประกันภัยรถยนต์ ถือเป็นเรื่องที่ดี สำหรับเจ้าของรถยนต์ทุกท่าน หากมีการเกิดอุบัติเหตุ บริษัทประกันภัยต้องเข้ามารับผิดชอบหรือมาดำเนินการแทนเจ้าของรถอยู่แล้ว แต่มีอยู่มากที่จะเลือกไม่ทำประกันภัยรถยนต์ แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้นั่นก็คือ รถยนต์ทุกคันหากมีการใช้งานอยู่ ก่อนจะถึงวันครบที่จะต้องเสียภาษีประจำปี จะต้องมีการทำที่เราเรียกว่า “ พ.ร.บ . ” ทุกคัน มิฉะนั้นจะผิดกฎหมาย และ ไม่อนุญาตให้ต่อภาษี
การประกันภัยรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นประเภท 1 , ประเภท 2 , หรือ ประเภท 3 ก็ตาม ต่างก็มีข้อกำหนดมากมาย ซึ่งคนส่วนใหญ่ ก็ไม่ทราบรายละเอียดหรือข้อมูลเท่าใดนัก รู้แต่เพียงว่ารถของฉันมีประกันภัย หากเกิดเหตุย่อมได้รับสิทธิ์ความคุ้มครอง แต่ในความเป็นจริง อาจจะไม่ตรงกับที่เราเข้าใจอยู่ก็เป็นได้
ยก ตัวอย่างเช่น การทำประกันชั้น 1 ได้จำแนกออกเป็นส่วนอื่นๆอีก อย่างที่เห็นเด่นชัดก็เกี่ยวกับการประกันชั้น 1 ของศูนย์บริการหรือที่เราเข้าใจว่าห้าง กับ ประกันภัยชั้นหนึ่ง ของ อู่ทั่วไป อีกอันหนึ่ง ก็ ประกันภัยชั้น 1 เกี่ยวกับคุ้มครอง รถหาย กับ รถไม่หาย ดั้งนั้นผู้ที่จะทำประกันภัย ขอให้สอบถามทำความเข้าใจให้ดีก่อนที่จะทำการใดๆ
บริษัทประกันภัย ยินดีที่จะรับใช้ท่านเจ้าของรถอยู่แล้วตามเงื่อนไขในเอกสาร แต่พนักงานของบริษัทประกันภัยอาจเป็นพนักงานใหม่ หรือ ไม่ทราบในรายละเอียดของประกันภัยมากนัก อาจทำให้ลูกค้าเกิดความสับสน หรือ อีกประเด็นหนึ่ง คือ ผ่านทางพนักงานขายเลยทำให้ตกหล่นไปบ้าง ที่สำคัญลูกค้าไว้ใจ เจ้าหน้าที่บริษัทประกันภัยเวลาเกิดเรื่องขึ้น ไม่ว่าอุบัติเหตุนั้นจะถูกหรือผิดก็ตาม ถึงอย่างไรต้องเรียกประกันภัยมา แต่มาช้าหรือมาเร็วนั่นอีกเรื่องหนึ่ง ( ส่วนใหญ่จะมาช้า )
การเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ อย่าเห็นแก่ราคาถูก การบริการอาจจะไม่ดีตามที่เราคิดได้ ขอให้ท่านศึกษาให้ดีไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาลักษณะใด เมื่อเกิดปัญหาขึ้นแล้วคงจะเสียอารมณ์มิใช่น้อย ก็มีอยู่พอสมควรที่ร้องเรียนถึงบริษัทประกันภัย แต่ถ้าหากมองมุมกลับ บริษัท ประกันภัยอาจไม่จะไม่เกี่ยวข้อง แต่จะเป็นตัวเจ้าหน้าที่เอง ที่ทำให้เสียชื่อเสียงขอให้ระลึกอยู่เสมอว่า การเซ็นต์ชื่อใดๆลงไปในเอกสาร ขอให้ อ่านให้รอบคอบเสียก่อน ว่าการเซ็นต์ชื่อไปนั้นเป็นการยินยอมชดใช้ของประกัน หรือ ยินดีที่จะจ่ายค่าเสียหายโดยที่ประกันภัยไม่เกี่ยวเลย และถ้าหากเราเซ็นต์ชื่อลงไปแล้ว ถือ ว่าถูกกฎหมายเสียด้วยซ้ำ มนุษย์มีวิธีการที่แยบยลในกระทำการต่างๆโดยที่ผู้อื่นไม่ทราบ ดั้งนั้น ขอให้ใจเย็นๆ อย่ารีบร้อน คนส่วนใหญ่พอเกิดอุบัติเหตุแล้วย่อมมีอารมณ์ที่ไม่ดีนัก จังหวะนี้แหละ อาจจะทำการเซ็นต์ชื่อไปโดยไม่รู้ตัว คิดว่าเซ็นต์ๆไปจะได้จบเรื่อง แต่ที่ไหนได้กลับถูกหักหลังจากเจ้าหน้าที่ประกันภัย
ดั้งนั้น หากไม่เข้าใจตรงจุดใด อย่าเซ็นต์ชื่อก่อนเด็ดขาด หากเอกสารนั้นอยู่ในมือผู้ที่ไม่หวังดี อาจเสียใจภายหลังอย่างไรแล้ว การทำประกันภัยรถยนต์ถือเป็นเรื่องดี และ จำเป็น เห็นด้วยทุกประการครับผม
“ สงสัยให้ถาม ความอย่างไร ใครถูกผิด คิดสักครู่ ดูให้เห็น แล้วจึงเซ็นต์ชื่อ รับทราบ ”
[เทคนิครถยนต์,การประกันภัยรถยนต์]