เคล็ดลับซื้อรถมือสอง รวมเทคนิคและวิธีการเลือกซื้อรถมือสอง คลิก!! More

เทคนิครถยนต์: เปลี่ยนหัวเทียน เรื่องง่าย ๆ

เทคนิครถยนต์: เปลี่ยนหัวเทียน เรื่องง่าย ๆ

                        ก่อนจะไปเตรียมหัวเทียนมาใส่แทน ต้องถอดของเก่าออกมาให้ได้ก่อน เพราะหัวเทียนที่ติดรถมาแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้ออาจไม่เหมือนกัน เครื่องมือที่ต้องเตรียมมีไม่กี่อย่าง ที่จำเป็นคือบล็อกถอดหัวเทียน โดยมากจะเป็นบล็อกยาว ถ้าได้เศษซากสายหัวเทียนมาซักอันก็จะดีเลย ถ้าเป็นพวกเครื่องไดเร็คท์คอยล์ (ฝั่งที่ต่อกับหัวเทียน) เท่านี้เอง

                        รอให้เครื่องเย็นสนิทจะได้ลงมือสบาย ๆ เมื่อลงมือแล้วดูอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกันด้วยเลย ที่มีหลัก ๆ ส่วนมากจะเป็นฝาครอบ ส่วนนี้ไม่ยากแต่บางรุ่นต้องมีอุปกรณ์พื้นบ้านที่เป็นเครื่องมือเฉพาะเช่น หกเหลี่ยมสำหรับไขน็อตเปิดฝา รถบางรุ่นจะยุ่งยากมากพอควร เพราะท่ออากาศจะพาดผ่านเครื่องด้านบน เช่น เครื่อง C-class คันนี้แต่ก็ถอดง่ายไม่ยุ่งยากเท่าไรนัก แต่หากเป็นเครื่องโตโยต้า อย่างเช่น 1 JZ-GE หรือ 2 JZ-GE เครื่องเจไม่โบนั่นเองที่ท่อไอดีค่อนข้างแน่นหนาอาจจะถอดลำบากหน่อย

                        เครื่อง C-class คันนายแบบนี้ต้องถอดท่ออากาศที่พาดอยู่ก่อน ปลดสายต่าง ๆ ที่ติดอยู่กับเส้นที่พาด เช่น เซ็นเซอร์หรือสายอากาศต่าง ๆ คันนี้จะเซ็นเซอร์อยู่ก่อนลิ้นปีกผีเสื้อ 1 ตัว มีขาเกี่ยวถ้าจะถอดก็บีบให้ขากางออก แล้วดึงออกตรง ๆ จากนั้นคลายน็อตเหล็กรัดออกซะทั้ง 2 ข้างตัวหนึ่งจะอยู่ตรงท่อยางหน้าลิ้นปีกผีเสื้อ อีกตัวหนึ่งอยู่ที่แอร์โฟลว์ เมื่อคลายแล้วบางคันอาจถอดยากเนื่องจากไม่ได้ถอดนาน ขยับมันซักเล็กน้อยด้วยการบิดหรือดูแล้วดึงออกตรง ๆ ได้ก็ดึง ถ้าคลายหมดแล้วท่อพร้อมที่จะหลุดแล้วให้สไลด์ท่อที่พาดด้านบนไปทางซ้ายเล็กน้อย เท่านั้นก็ดึงออกได้ รถรุ่นอื่น ๆ ให้ดูจุดยึดให้ดีก่อน หากดึงออกยากอาจจะมีบางส่วนยังติดอยู่ ถ้าฝืนดึงออกมาจะทำให้เกิดความเสียหายได้

                        คราวนี้ได้เปิดฝาครอบโดยการคลายน็อตฝาครอบออก ไขน็อตแล้วเก็บให้เป็นที่ด้วย หายไปจะยุ่ง หาปากกาลบคำผิดสีขาวหรือชอล์คเขียนยางมามาร์คตำแหน่งที่สายของแต่ละสูบไล่ลำดับไปของใครเป็นไดเร็คท์คอยล์ก็มาร์คที่ปลั๊กสายกับตัวคอยล์จะได้ไม่ใส่สลับกัน มาร์คแล้วก็ดึงออกตรง ๆ เบา ๆ ทีละสาย กระชากแรง ๆ สายจะขาดใน พวกไดเร็คท์คอลยล์บางรุ่นจะมีน็อตยึดก็คลายออกซะแล้วดึงออกตรง ๆ เช่นกัน เรียบร้อยแล้วจะทำความสะอาดสายหัวเทียนเสียหน่อยก็ได้ โดยใช้สเปรย์ทำความสะอาดเช็ด (ดูข้างกระป๋องด้วย เอาชนิดที่ไม่ทำปฏิกิริยากับยางนะ) นำบล็อกถอดหัวเทียนมา (โดยมากจะเป็นเบอร์ 16 และควรใช้บล็อกยาว) ต่อด้ามต่อด้วย จากนั้นไขทวนเข็มนาฬิกาซะ คลายออกพอหมุนคล่องแล้วก็ดึงบล็อคออก เอาสายหัวเทียนเก่าหรือใครจะถอดออกมาซักเส้นหนึ่งจากสูบใดก็ได้เสียบเข้าไป จากนั้นหมุนทวนเข็มนาฬิกาจนหลุดติดออกมา ที่ให้ใช้สาย เพราะว่าถอดง่ายแล้วดึงก็จะติดออกมา (เดี๋ยวมีใช้ตอนใส่อีก) ทำสูบต่อไปเช่นเดียวกัน เอากระดาษกาวปิดรูหัวเทียนป้องกันอะไรร่วงลงไป

                        ส่งหน่วยเซอร์วิสเอาหัวเทียนที่ถอดออกมาไปซื้อของใหม่ที่ร้าน เมื่อได้หัวเทียนมาแล้วแกะออกจากกล่อง ตรวจสอบก่อนว่า เกลียวเดียวกันหรือไม่ (โดยมากจะเท่ากัน แต้ถ้าเอาชัวร์ก็เอาเกลียวประกบดัน ถ้าระยะพิทช์เท่ากันจะประกบกันสนิท) จากนั้นดูเบอร์น็อตหกเหลี่ยมให้เท่ากัน ส่วนมากก็อย่างที่บอกเบอร์ 16 เท่ากัน แต่เทียบเพื่อความชัวร์ และเทียบระยะความยาวของเกลียวว่าไม่สั้นและไม่ยาวกว่ากัน สุดท้ายถ้ามีฟิลเลอร์เกจ์ชนิดลวดกลม (Round Wire Gauge) มาวัดระยะห่างของเขี้ยวดูว่าเท่ากันหรือไม่ (ส่วนนี้ถ้าไม่เท่ากันสามารดัดเขี้ยวได้ โดยมาตรฐานของระยะห่างมาตรฐานจะประมาณ 0.6-0.8 มิลลิเมตร หรือ 0.024-0.031 นิ้ว)

                        ได้ของแล้วก็เตรียมลงมือประกอบหัวเทียนจะมีแหวนนูนส่วนที่เป็นปะเก็นอยู่ สังเกตดี ๆ ส่วนนี้หากถอดเข้าถอดออกบ่อย ๆ จะหมดความนูน เมื่อตั้งระยะเรียบร้อยทุกหัวแล้วใส่ อย่าใส่โดยการหย่อนหัวเทียนลงรูแล้วไขเป็นอันขาด เพราะจะทำให้หัวเทียนเสียหาย เซรามิคภายในอาจแตก ที่สำคัญระยะเขี้ยวที่ตั้งมาจะเปลี่ยนไป เพราะเขี้ยวโดนกระแทก เวลาใส่ให้เสียบหัวเทียนเข้ากับสายแล้วค่อย ๆ แหย่ลงรูแล้วหมุนให้กินเกลียวซักระยะหนึ่ง จากนั้นค่อยดึงสายหัวเทียนออก ทำอย่างนี้ทุกสูบ

                        จากนั้นนำบล็อกมาไข วิธีการไขหากใครมีเครื่องวัดแรงตึงในการไขจะนำมาใช้ก็ได้ (ประแจทอร์ค) และค่าความตึงสอบถามได้จากศูนย์บริการตามยี่ห้อเครื่องยนต์ หากใครมีให้ขันไปจนสุดเกลียว แต่อย่าเพิ่งออกแรงมาก ให้พอตึงมือนิดเดียว จากนั้นให้ออกแรงไขเพิ่มอีก 1/8 ของวง ถ้านึกภาพไม่ออกให้วาดรูปวงกลมแบ่งเป็น 8 ส่วนแล้วเปรียบเทียบจากการดึงด้ามขันให้แน่นมาประมาณ 1 ส่วน 8 ในวง เท่านี้เองก็ประกอบส่วนต่าง ๆ กลับคืนได้ แต่อย่าลืมจุดยึดต่าง ๆ ด้วย

                        อ้อ...ตรวจดูสายหัวเทียนให้ตรงกับที่มาร์คไว้ก่อนสตาร์ท เท่านี้ก็เรียบร้อย Happy ครับพี่น้อง



บทความรถยนต์ที่น่าสนใจ