เทคนิครถยนต์: จัดระเบียบสายไฟ
แก๊งมือซนชวนกันเล่นกับ Tacho Meter หรือมาตรวัดรอบเครื่องยนต์ อย่างแรกที่ต้องเตรียมคือ มิเตอร์ ส่วนอื่น ๆ ที่ต้องเตรียมก็แล้วแต่ว่าจะเอางานสวยขนาดไหนเช่น สายไฟที่ต้องยาวพอ ใครอยากเอาแบบเนียนมากก็ใช้วิธีเชื่อสายด้วยตะกั่วก็ได้ แต่ถ้าไม่อยากตัดสายก็ไปหาซื้อตัวพ่วงสายแบบไม่ต้องตัด ซื้อที่คลองถมหรือร้านเครื่องไฟฟ้าใหญ่ๆ ร้านขายของสำหรับวัยแรงที่มีของให้เลือกมากหน่อยก็อาจจะมี รวมทั้งบรรดา Home..ทั้งหลายที่ขายอุปกรณ์แต่งบ้าน) ควรดูสายไฟของตัวรถและสายไฟของมิเตอร์ก่อนว่าขนาดเท่าไหน ถึงจะไปเลือกซื้อเจ้าตัวที่ว่านี้มา ให้ขนาดเหมาะกันรวมถึงสายไฟที่จะต้องใช้เพิ่มด้วย ที่เหลืออยู่ที่เราแล้วว่าอยากจะเก็บสายดีขนาดไหน เลือกเอาระหว่างท่อหด (ขนาดใกล้เคียงกับสายไฟ) หรือจะใช้เทปพันสาย แล้วก็เตรียมคัตเตอร์ไว้ด้วย
การเลือกซื้อต้องดูด้วยว่าสามารถใช้กับเครื่องยนต์สเป็คเราได้หรือไม่ วิธีง่าย ๆ ก็คือ หากสามารถใช้กับรถ 1,4,6,8 สูบและปรับตั้งค่าได้ไม่ค่อยมีปัญหา แต่ถ้าเอามาแล้วตั้งค่าไม่ได้ หากจำนวนสูบไม่ตรงกันมาตรวัดจะขึ้นไม่ตรง (ไม่รวมประเภท Rotary นะ) ยิ่งถ้าต่อกับเครื่องประเภท 3 หรือ 5 สูบอาจจะหายากหน่อย เอาเป็นว่าหาที่ปรับให้ตรงกับจำนวนสูบได้ก็จะดี [เทคนิครถยนต์]
วิธีการติดตั้งหากเป็นของใหม่มีคู่มือก็จะง่าย แต่ถ้าไม่มีก็ต้องหาว่าสายไฟเส้นไหนที่ออกจากมิเตอร์ต่อเข้ากับอะไร บางยี่ห้อถ้าไม่มีคู่มือสามารถหาดาวน์โหลดได้จากเว็บ แต่ถ้าบางยี่ห้อไม่มีคงต้องดูของเพื่อนหรือถามจากแหล่งที่ซื้อมา แล้วยังต้องหา ECU Pin Out หรือหาว่าสายไฟจากล่อง ECU แล้วว่าเส้นไหนเป็นสายสัญญาณรอบเครื่องยนต์ (rpm) ซึ่งตรงนี้ต้องใช้ความพยายามเหมือนกันเพราะบางทีคู่มือพวกนี้อาจจะต้องหาซื้อ เพราะบางรุ่นจะไม่มีหายาก บางรุ่นก็จะหาลำบากหน่อยสำหรับ Pin Out ของเครื่องยอดฮิตบางรุ่นมีอยู่ในคอลัมน์ D.I.Y นิตยสาร FMM ฉับที่ 32 ไปหาดูได้ครับ
เริ่มจากการหาตำแหน่งวางมิเตอร์ก่อน จากนั้นวัดระยะสายไฟ ส่วนสายที่จะต้องเผื่อโดยมีดังนี้ สายไฟ + เผื่อความยาวมาที่สวิทช์ กุญแจสำหรับเปิดระบบ สายไฟ- หาจุดลงกราวด์ที่ตัวถังรถ ตรงนี้แล้วแต่ความสะดวกว่าจะเอาลงช่วงไหน สายไฟหรี่หรือสายไฟหน้าปัด ให้ลากมายังจุดที่จะต่อพ่วง (ขึ้นอยู่กับจุดที่จะต่อพ่วงว่าจุดไหน เช่น พ่วงกับไฟหน้าปัด ไฟส่องสว่างของส่วนต่าง ๆ ที่ติดเมื่อเปิดไฟหรี่ เช่น ไฟคอนโซลหรือไฟรอบที่จุดบุหรี่ และสุดท้ายในกรณีที่ไม่มีสายมากกว่านี้ นั่นคือสานสัญญาณรอบเครื่องยนต์ หรือ rpm สายนี้ถ้าจะให้ดีลากไปแถวกล่อง ECU เมื่อกะขนาดความยาวของสายต่าง ๆ ได้แล้วตัดสายไฟให้มีขนาดความยาวของสายต่าง ๆ ได้แล้วตัดสายไฟให้มีขนาดตามที่เรากะไว้เมื่อครู่ (อย่าลืมเผื่อจุดหลบสายและลอดผ่านส่วนต่าง ๆ ด้วย) จากนั้นต่อสายไฟจากตัวมิเตอร์ก่อนดูภาพประกอบนะ ในกรณีที่ต่อแบบง่าย ๆ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เชื่อมสายให้ปอกสายไฟทั้ง 2 ข้างออก ให้สายโลหะภายในของสายทั้ง 2 ด้านเปลือยออกมายาวเท่า ๆ กัน หมุนสายไฟของแต่ละด้านให้เป็นเกลียวก่อนทั้งคู่ เมื่อสายโลหะภายในนั้นเป็นเกลียวทั้ง 2 ด้านแล้ว หากใช้ท่อหดให้สอดท่อหดเข้าไปในสายด้านใดด้านหนึ่งก่อน จากนั้นเอามาวางพาดกันในรูป X แล้วจับที่กลางตัว X บิดหมุนให้สาย 2 เส้นพันกันเป็นเกลียวแน่น พับสายที่ต่อแล้วงอไปด้านใดด้านหนึ่ง หากใช้เทปพันสายให้วางเทปเอียงเล็กน้อย 45 องศา กับสายไฟแล้วพับทับจุดต่อเชื่อมให้สนิทมิดชิด แต่ถ้าใช้ท่อหดให้เลื่อนท่อมาสวมทับจุดนี้ แล้วใช้ไฟลนในระยะเวลาสั้น ๆ หากยังหดไม่ได้รูปรอให้สายเย็นเสียก่อนแล้วทำใหม่ อย่าลนแช่นานเพราะสายไฟจะไหม้เสียหาย เนื่องจากสายไฟมีหลายเส้น ถ้าหาซื้อสายไฟที่จะเชื่อต่อได้ไม่ทุกสี ให้เอากระดาษกาวมาทำเครื่องหมายและมาร์คปลายสายอีกด้านหนึ่งไว้ กันการสับสนว่าสายไหนเป็นสายสีอะไรหรือว่าเป็นสายที่จะต่อเข้ากับอะไร เท่านี้การเชื่อมสายช่วงแรกก็จบ
[เทคนิครถยนต์]
จากนั้นวางมิเตอร์ในตำแหน่งที่ต้องการจะติดตั้งแล้วไล่ร้อยสายไปในส่วนต่าง ๆ ที่กะไว้ในช่วงแรก เริ่มที่สายไฟสัญญาณ + เปิดระบบ ให้ต่อเข้ากับสัญญาณ IG ของสวิทช์กุญแจ (วิธีหาดูได้จาก FMM ฉบับที่ 26 เรื่อง การทำปุ่มสตาร์ทครัรบ) หรือหกาจะเช็คก็ไม่ยากเท่าไร แต่ต้องมีมิเตอร์วัดไฟ โดยจิ้มหาสายที่ออกจากสวิทช์กุญแจ เอาสานลบลงกราวด์สาย + จิ้มเข้าที่สาย แล้วบิดด่าตำแหน่ง IG On เส้นไหมมีไฟ 12 Volt มา หากเมื่อบิดสตาร์ทแล้วยังคงมีไฟนั้นอยู่ก็ OK พ่วงสายไฟกับสายเส้นนั้นและหุ้มเช่นเดียวกับวิธีต่อสายไฟ สายไฟ-ทำปลายสายให้เป็นห่วงหรือจะใส่แหวนก็ได้ จากนั้นให้คลายน็อตตัวถังออกพอประมาณและสอดสายเข้าด้านใต้ ไขกดแหวนหางปลาหรือสายให้แนบสนิทกับตัวถัง ตามด้วยสายไฟหรี่หรือไฟหน้าปัด ทำเช่นเดียวกันหากเป็นจุดพ่วงกับหลอดอื่น ๆ จะทำได้ง่ายพ่วงได้เลย แต่ถ้าหาสายให้ทำเช่นเดียวกับไฟ On แต่ให้หาชุดสายที่มาจากสวิทช์ไฟหรือก้านเปิดไฟหน้าโดยใช้มิเตอร์วัดไฟ ทำเช่นเดียวกัน แต่คราวนี้ให้เปิดสวิทช์กุญแจไปที่ไฟ IG On เลย และเปิดไฟหรี่ ถ้าเส้นไหนมีไฟ 12 Volt มาเมื่อปิดไฟแล้วดับก็พ่วงกับเส้นนั้นได้ จากนั้นหุ้มสาย เมื่อทำเสร็จขั้นตอน 3 สายนี้แล้วให้ทดสอบดูก่อนได้ ด้วยการบิดสวิทช์กุญแจไปตำแหน่ง IG On ดูการตอบสนองจากมาตรวัด มาตรวัดบางตัวที่ปกติแสดงตำแหน่งเข็มที่ 0 rpm อยู่แล้ว และไม่มีลูกเล่นอาจจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ให้ลองเปิดไฟหรี่ดูว่าไฟหน้าปัดติดหรือไม่ แต่หากตัวที่มีลูกเล่นเข็มกวาดหรือตัวที่ปกติเข็มไม่ตรง 0 rpm เข็มจะต้องขยับมาพร้อมที่ตำแหน่ง 0 rpm เท่านั้นก็ใช้ได้ สุดท้ายมาต่อกับส่วนของสัญญาณ rmp ที่เลือกให้ใช้สัญญาณจาก ECU เนื่องจากจะได้สัญญาณที่แน่นอนและมีความเสถียรสูง การจะดูสาย ECU Pin Out ให้ปลด ECU ออกจากตำแหน่งที่ยึดกับตัวรถออกมาก่อน หยิบกล่องขึ้นมาให้สายไฟหันเข้าหาตัว ปลอดฝาครอบพลาสติกออก สังเกตลักษณะของแถวสายไฟ ชั้วปลั๊กให้มีลักษณะเช่นเดียวกับในรูป และเริ่มนับสายให้ตรงกัน การนับสายจะต้องไม่นับข้ามช่องไม่ว่าจะกรณีใด ๆ ช่องนั้นจะมีสายไฟออกมาเส้นเดียวหรือช่องเดียว แต่ถึงออกมา 2 เส้น หรือไม่มายไฟออกมาต้องนับช่องนั้นด้วยเช่นกัน นับสายให้ตรงกับผัง ECU Pin Out ตรงจะนี้แนะนำให้ใช้ตัวพ่วงสายจะดีที่สุด เพราะจะไม่ทำให้สายเสียหาย หากไม่ได้เชื่อมายด้วยตะกั่วหรือพันสายไม่แน่นจะทำให้สัญญาณไม่ราบเรียบ
เมื่อต่อเสร็จแล้ว ให้ลองสตาร์ท หากมิเตอร์ไม่ทำงานให้เช็คสายไฟใหม่ว่าต่อถูกเส้นหรือไม่ ถ้าวัดรอบขึ้นไม่ตรงให้ดูวิธีเซ็ทสัญญาณให้ตรงกับจำนวนสูบ ตามยี่ห้อของมิเตอร์นั้น ๆ เรียบร้อยแล้วให้จัดการเก็บ ECU เข้าที่และเก็บสายไฟให้มิดชิด