“การแซงรถ ไม่ว่าจะด้วยเกียร์ธรรมดาหรือเกียร์ออโต้ก็ตาม ถือเป็นยุทธการที่เสี่ยงภัยยิ่งอย่างหนึ่งของการขับรถในเมืองไทย ความทะนงในฝีมือ ความใจร้อน การคาดการณ์ผิดพลาด เป็นมูลฐานขั้นอนุบาลที่มีความเฉียบขาดในการสังหาร การแซงจึงต้องการทั้งทักษะและความรู้ความเข้าใจ”
การแซงถือเป็นยุทธการที่เสี่ยงภัยสมบูรณ์แบบอย่างหนึ่งสำหรับการขับขี่ในเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นรถเกียร์ธรรมดาหรือเกียร์อัตโนมัติ แต่เกียร์อัตโนมัติดูน่าจะเป็นห่วงมากกว่าสำหรับคนที่ไม่ค่อยคุ้นเคย อุบัติเหตุที่ได้มาจากการแซงส่วนมากจะรุนแรงเกือบทุกครั้ง เราสามารถแบ่งรูปแบบการแซงออกเป็นสไตล์ง่าย ๆ ดังนี้ :
1. แซงธรรมดาโดยความเร็วที่สูงกว่า – แซงแบบนี้ไม่ค่อยเป็นปัญหา หากเทคนิคที่ใช้แซงถูกต้องตามวิธีการและไม่ได้มุ่งหวังเอารัดเอาเปรียบ หรือรังแกอารมณ์ผู้อื่น
2. แบบคิกดาวน์ – โดยการเหยียบคันเร่งลงไปจนสุดครั้งเดียว อัตราทดเกียร์จะเปลี่ยนเป็นเกียร์ต่ำกว่าโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะทำให้เราได้แรงบิดเพิ่มขึ้น เหมาะสำหรับการเร่งแซงในภาวะกะหันทันหรือแบบ “ชิงดำ” การแซงแบบนี้ควรทำเมื่อจำเป็นเท่านั้น เสียงเครื่องจะดังคำรามด้วยความขัดเคือง กินน้ำมัน และการสึกหรอสูงกว่าการแซงแบบอื่น
3. แบบชิฟต์ดาวน์ – รถสายพันธุ์ยุโรปส่วนมากและฮอนด้าสายพันธุ์ญี่ปุ่นที่ไม่มีปุ่มโอเวอร์ไดร์ฟ การจะแซงให้นุ่มนวลกว่าการแซงแบบคิกดาวน์ก็สามารถทำได้ ด้วยการเลื่อนคันเกียร์ลงไปยังเกียร์ที่ต่ำกว่า ความสึกหรอและสิ้นเปลืองน้ำมันน้อยกว่าแบบคิกดาวน์เหมาะสำหรับการแซงที่เร่งรัดหรือรีบร้อนพอสมควร
4. การแซงโดยใช้ปุ่มโอเวอร์ไดรฟ์ – กรณีนี้จะทำได้กับรถที่มีปุ่มโอเวอร์ไดร์ๆ On-Off และในขณะที่รถวิ่งอยู่ ณ เกียร์โอเวอร์ไดรห์แล้วและจะแซง กดปุ่มโอเวอร์ไดรฟ์ Off สั่งการให้เกียร์ลดลงมาเป็นเกียร์ 3 และกดปุ่มโอเวอร์ไดรฟ์ On เมื่อแซงพ้น เกียร์ก็จะเปลี่ยนกลับไปเป็นเกียร์โอเวอร์ไดรฟ์ตามเดิม วิธีการแซงแบบนี้นุ่มนวลและสึกหรอน้อยกว่าแบบคิดดาวน์เช่นกัน
การจะแซงแบบไหนย่อมได้ตามใจปรารถนา โดยขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาส แต่สำนึกแห่งความปลอดภัยต้องมาก่อน ความเข้าใจและรู้หน้าที่รวมทั้งนิสัยใจคอของเกียร์ จะช่วยให้การตัดสินใจเลือกใช้วิธีการได้ถูกต้องสอดคล้องกับสถานการณ์และความปลอดภัยครับ
