“ไม่ว่าจะเป็นประตูบ้านหรือประตูรถ ผู้คนมักจะไม่ค่อยให้ความสำคัญ หลงลืมกันง่าย ๆ จนถึงคราววิกฤตนั่นแหละ ถึงจะเห็นความสำคัญ”
ตัวอย่างที่เห็น เช่น พ่อขับรถ 6 ล้อแล้วไม่ล็อคประตู ปล่อยให้ลูกชายตัวเล็ก ๆ ดึงล็อคเล่น ดึงไปดึงมา ประตูจึงเปิด ลูกชายก็เลยตกลงมา ส่งผลให้เด็กหัวกระแทกพื้นถนนเสียชีวิตทันที่ หรืออย่างรายที่เด็กนักเรียนอนุบาลหล่นจากรถเพราะประตูข้างของรถตู้เปิดออก เนื่องจากคนขับไม่ได้ล็อคประตูให้สนิท นี่ก็เช่นกัน ยังมีตัวอย่างอุบัติเหตุอีกมาที่เกิดจากประตู สิ่งที่คนคิดว่าเหลือเชื่อมักจะเป็นความเชื่อที่เจ็บปวดได้ในภายหลังเสมอ ประตูนั้นสำคัญไฉน จากที่กล่าวมาคงทำให้ท่านพอมองเห็นภาพความเล่ห์ของอุบัติเหตุได้บ้าง คำถามที่ค้างใจอยู่ก็คือ คุณจะรอเวลานั้นอยู่อีกหรือ
เทคนิคหนึ่งในบัญญัติ 8 ประการของความปลอดภัยก่อนออกรถ กล่าวถึงประตูไว้ว่า:
1. เมื่อขึ้นบนรถแล้วให้ล็อคประตูทันที หากทิ้งเวลานาน ๆ จะเสี่ยงต่อการหลงลืม หากมีเซ็นทรัลล็อคก็สามารถจัดการได้ด้วยตัวเอง หากไม่มีเซ็นทรัลล็อคดังที่ว่า ก็ขอให้ผู้โดยสารช่วยล็อคให้ รถบางยี่ห้อจะล็อคเมื่อสตาร์รถ และปลดล็อคเมื่อดับเครื่องยนต์ แต่ยังไงคุณก็ควรตรวจสอบอีกครั้งก่อนออกรถ อาจมีผู้เถียงว่ามันมีสัญญาณเตือนถ้าประตูปิดไม่สนิท ผมว่ามันไม่มีทุกยี่ห้อทุกรุ่นหรอกนะ ถึงจะมีสัญญาณเตือนก็จริง แต่ผู้ขับขี่ก็อาจจะไม่ได้ตรวจดูสัญญาณทั้งหลายทุกครั้ง ขนาดสัญญาณเบรกมือ บางคนยังลากจนถึงปลายทางก็มี ไม่มีอะไรดีไปกว่าการฝึกทำฝึกปฏิบัติให้ติดเป็นนิสัย
2. ก่อนออกจากรถ ควรเช็คจากกระจกอีกครั้งว่าประตูทุกบานปิดสนิทแล้ว ตัดภัยบางสิ่งที่ตัดได้เสียแต่ต้นทาง จะได้ไม่ต้องพะวง เอาเวลาไว้ค้นหาภัยและผจญภัยที่มีอีกมากมายในหนทางข้างหน้าดีกว่า
รอบคอบและเสียเวลาเพียงน้อยนิด คิดว่าคุ้มเกินคุ้มกับชีวิตและความปลอดภัย ต้องขอเตือนคุณผู้หญิงที่ต้องขับรถเป็นพิเศษ อันตรายของคุณมีมากกว่าบุรุษ ล็อคประตูเสียเถอะครับ
