“อุบัติเหตุไม่ต้องการเวลามาก บางครั้งแค่วินาทีเดียวก็เกินพอ ในความเป็นมนุษย์ธรรมดานั้น ยากนักหนาที่จะรักษาสติและสมาธิให้คงอยู่สมบูรณ์เต็มร้อยทุกเวลาตลอด 365 วัน อุบัติเหตุมันก็รู้ว่ามีช่องโหว่ที่โจมตีได้อยู่หลายรู การฝึกและใช้เทคนิคที่คุ้นเคยอย่างถูกต้องเท่านั้นคือเกราะป้องกัน”
การหยุดรถ ถ้าไม่ขึ้นเบรกมือทันที แล้วเท้าพลาดจากแป้นเบรกไปตกที่คันเร่ง รถจะพุ่งลงบึงเสียชีวิตชีวิตพร้อมผู้โดยสาร เมื่อจอดรถและปลดเป็นเกียร์ว่างแล้ว เผลอวาดมือพลาดไปถูกคันเกียร์จนเกียร์เลื่อนไปที่เกียร์เดินหน้า ทำให้รถวิ่งไปชนคนบาดเจ็บ ที่กล่าวมาล้วนเคยเกิดขึ้นแล้วทั้งนั้น การหยุดรถติดสัญญาณไฟแล้วไม่ขึ้นเบรกมือ ถูกรถหลังชน/รถไถลไปชนรถคันหน้า เลยได้มาพร้อมกัน 2 แผลในคราวเดียวกัน เป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจริงบ่อย ๆ เชื่อว่าคุณก็มิพึงปรารถนาจะให้เกิดขึ้นกับตัวเอง ลองปรับหรือเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่เสียใหม่ เพื่อป้องกันภัยดังที่ว่า ไม่ยากครับ ไม่ยาก หากตั้งใจจะทำ :
1. จอดรถหรือหยุดรถเมื่อได้รับสัญญาณไฟแดง – ขึ้นเบรกมือทันที แล้วปลดเกียร์ อย่าโต้แย้งเลยว่ามันแค่ “แป๊บเดียว” อย่าลืมสิว่าอุบัติเหตุไม่ต้องการเวลามาก เพียงแค่เสี้ยววินาทีก็พอแล้ว ถ้าทุกอย่างมันลงตัว
2. หากหยุดระหว่างการจราจรบนทางราบ หรือบนถนนที่ผิวจราจรเรียบนานเกินกว่า 10 วินาที – ขึ้นเบรกมือและปลดเกียร์ คำว่าระหว่างการจราจรในที่นี้หมายถึง เพราะรถติด บริเวณที่มีการก่อสร้างหรือซ่อมถนนหรือเพราะระหว่างทางมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น หรือบนถนนหนทางที่ปริมาณรถมากกว่าความกว้างของถนน
3. รถเกียร์อัตโนมัติ – การปลดเกียร์ หมายถึงเกียร์ว่างเช่นกัน กฎเกณฑ์ในการใช้เบรกมือและเกียร์ก่อนหรือหลังเป็นอย่างไร ก็เป็นเช่นเดียวกับรถเกียร์ธรรมดาที่กล่าวมา อย่าได้ใช้เกียร์จอดกับการหยุดหรือจอดในทางที่มีความเสี่ยงสูง ต้องไม่ลืมว่าเกียร์จอดนั้นจะล็อคที่ร่องเฟืองเกียร์ หากพลาดพลั้งก็จะเกิดความเสียหายหลายสตางค์ อีกอย่างที่ควรระวังคือ ความเสี่ยงที่ต้องลากผ่านตำแหน่งเกียร์ถอยหลังบ่อย ๆ วันหนึ่งอาจพลาดได้ เจอกันมาแล้วหลายราย แล้วทำไมต้องมีคุณไปด้วยอีกคนหนึ่งล่ะ
ไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร ไม่ว่ากัน รอไปก่อน รอวันนั้น “วันที่รอคอย”
