“การใช้สัญญาณไฟฉุกเฉินที่คุณยังพบเห็นอยู่ เหมือนโรคร้ายยังไม่สิ้นเชื้อ เช่น เปิดไฟฉุกเฉินขับผ่านทางแยก เปิดไฟฉุกเฉินเวลาฝนตกหรือฟ้าหลัว เปิดไฟฉุกเฉินพาคนป่วยคนเจ็บไปโรงพยาบาลหรือขณะขับถอยหลัง เป็นต้น อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมักจะมาจากความเข้าใจผิดที่เห็นไฟสัญญาณเพียงด้านใดด้านหนึ่ง แล้วก็แปลสัญญาณนั้นตามที่เห็น หรือไม่ก็เกิดจากการตีความผิด อย่างเช่น วันที่หมอกลงหนามากเป็นช่วง ๆ อย่าง ตัวอย่างจริงที่เคยเกิดขึ้นในบ้านเรา รถเก๋งและรถปิกอัพหลายคันจอดชิดซ้ายกันเป็นแถว เปิดไฟฉุกเฉินเกือบทุกคัน เพราะหมอกรุ่งอรุณลงหนัก ทุกคันจอด ยกเว้นรถเก๋งขนาดเบาป้ายแดงคนหนึ่งที่ยังคลานต้วมเตี้ยมต่อไปช้า ๆ เหมือนเลียบค่ายตรวจพล จนไปถึงรถตู้ซึ่งก็จอดเหมือนกัน แต่ล้ำออกมามากหน่อย เธอจึงรีบเบนหัวออกเพื่อหลบรถตู้คันนั้น เป็นจังหวะเดียวกันกับรถสิบล้อที่ขับแบบสิบล้อฝ่าหมอกหนามา และเสยเข้าที่หัวรถเก๋งป้ายแดงคันนั้นอย่างจัง สิบล้อไม่หนี แต่กลับโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง เขาบอกว่า ผมแยกไม่ออกหรอกคุณว่าคันไหนหยุด คันไหนวิ่ง คุณไม่น่าทำให้ผมเสียเวลาเลย ฟังแล้วก็น่าเห็นใจด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งอาจไม่รู้ อีกฝ่ายหนึ่งก็เข้าใจผิด และอีกหลายแบบหลายกรณีเป็นมูลฐานก่อให้เกิดความเข้าใจผิดและนำไปสู่อุบัติเหตุ”
กฎหมายไทยได้ระบุไว้ว่า ถ้ารถเสียผู้ขับขี่ต้องนำรถออกให้พ้นทางเดินรถโดยเร็วที่สุด ถ้าจำเป็นต้องจอดรถอยู่ในทางเดินรถ ต้องจอดรถในลักษณะที่ไม่กีดขวางการจราจร และต้องแสดงเครื่องหมายหรือสัญญาณแล้วแต่กรณี สัญญาณท่านี้ก็คือไฟฉุกเฉินนั่นเอง สรุปแล้วก็คือไม่ใช้ในขณะรถวิ่ง
พึงระลึกไว้ว่า รถคันที่จะเห็นไฟกะพริบหน้าหรือหลังที่กะพริบพร้อมกัน 2 ดวง ก็มีเพียงรถคันหน้าสุดที่วิ่งสวนทางกับคันแรกที่วิ่งตามหลังคุณเท่านั้น คันต่อ ๆไปนั้นก็ขึ้นอยู่กับมุมมองที่เห็น หากเหลื่อมซ้ายก็เห็นด้านซ้าย หากเหลื่อมขวาก็เห็นด้านขวา แล้วก็แปลสัญญาณตามที่เห็น ยิ่งถ้าหลอดไฟขาดไปข้างใดข้างหนึ่งล่ะก็คงสนุกมากกว่านั้น
เพราะฉะนั้นต่อแต่นี้ไปใช้ให้ถูก จะขับผ่านทางแยกทางร่วมไม่ต้องเปิดไฟฉุกเฉิน เข้าช่องทางให้ถูกตามกติกา บวกกับสมาธิและการสังเกตการณ์ที่ดี ฝนตกฟ้าหลัวไม่ต้องเปิดไผฉุกเฉิน ถ้าเปิดก็เปิดไฟใหญ่หน้ารถ ถอยหลังหรือถอยหลังเข้าจอด งดใช้ไฟฉุกเฉิน ใช้ความรอบคอบ จังหวะ และการสังเกตการณ์ที่ดีแทน อีกอย่างคือ ดูแลไฟและหลอดไฟให้ดี เมื่อถึงเวลาต้องใช้ไม่เกเร บางท่านอาจเคยเห็นหรือเคยได้ยินมาว่า ในบางประเทศเขาเปิดไฟฉุกเฉินขณะรถวิ่งกันได้ อย่างในประเทศอังกฤษ ก็จริงอยู่ แต่เป็นการอนุโลมให้ใช้บนมอเตอร์เวย์ในกรณีที่มีอุบัติเหตุข้างหน้า แต่ก็กำกับไว้ให้ใช้เพียงแค่วาบสองวาบแล้วหยุด พอให้รถที่วิ่งตามหลังสังเกตได้ ไม่ใช่เปิดติดต่อกันนาน ๆ
ระวังสัญญาณและความเข้าใจของผู้อื่นด้วย เขาอาจไม่คิดอย่างที่เราคิด ใช้ประสบการณ์มาช่วยในการสังเกตการณ์ คาดการณ์ อ่านสัญญาณให้ออก เพื่อความปลอดภัยแก่ตัวคุณเอง
