“แปลกแต่จริงที่ผู้ขับขี่ไม่ค่อยนิยมใช้สัญญาณไฟเบรก (คนละเรื่องกับไฟเบรกที่ติดขึ้นมาเพราะการเหยียบเบรก แต่หมายถึงสัญญาณไฟเบรกที่ผู้ขับขี่แตะเบรก เพื่อใช้บอกให้ผู้ขับขี่ที่ขับตามมาได้รับรู้และเข้าใจว่าประสงค์จะทำอะไร ก่อนจะลงมือปฎิบัติการ เช่น ก่อนจะหยุดรถ เป็นต้น) คุณสามารถใช้สัญญาณไฟเบรกป้องกันการถูกชนท้ายจากรถที่ขับจี้หรือเตือนให้ผู้ขับขี่ที่เผลอ เบลอหรือขับจี้รู้สึกตัว เป็นเทคนิคการใช้ที่ไม่ยากหากได้ฝึกฝนไว้บ้าง”
1. ให้สัญญาณไฟเบรกก่อนชะลอหรือหยุดรถ – เมื่อแน่ใจว่าผู้ขับตามหลังรับรู้แล้ว จึงค่อยเหยียบเบรกให้รถหยุดหรือชะลอรถ แล้วก็ควรให้สัญญาณด้วยระยะทางไม่น้อยกว่า 30 เมตร หรือมากกว่าตามความเหมาะสม
2. แก้ไขสถานการณ์เมื่อมีรถขับจี้ท้าย – ให้มองกระจกส่องหลัง เมื่อเห็นว่าปลอดภัยวางใจได้ก็แตะเบรก เมื่อเห็นว่าเพื่อนที่เผลอจี้ท้ายออกอาการรับทราบแล้ว ก็ถอนเท้าจากคันเร่ง ปล่อยให้ความเร็วค่อย ๆ ลดลงตามแรงของเครื่องยนต์ ในกรณีนี้ให้แตะเบรกแบบที่ว่านั้นครั้งเดียว ให้เวลาช่วยคลี่คลายสถานการณ์ การทำอย่างนี้จะส่งผลลัพธ์โดยตรง 2 กรรี คือ ทั้งเพิ่มระยะห่างจากรถของเรากับรถคันหน้าและเพิ่มระยะห่างจากรถของเรากับรถคันหลัง ซึ่งหากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น ทั้งคันเราและคันเขาก็จะหยุดทันด้วยกันทั้งคู่ หรือถ้ารถคันหลังอยากจะแซงขึ้นหน้าไปก็สุดแต่ใจของเขา เราก็หาคู่ปรับคันใหม่ต่อไป
3. ขณะถอยหลังออกจาที่จอดรถที่แออัด – โดยเฉพาะในปั๊มน้ำมัน อย่าลืมแตะเบรกสัก 2 ครั้ง ให้เป็นที่สังเกตแก่รถที่กำลังวนหาที่จอด เตือนให้เขารู้ว่าในกรณีในรถมีคน และรถกำลังจะเคลื่อนที่ออก เป็นการแบ่งเบาภาระซึ่งกันและกัน ตัวเราเองอาจมีจุดบอดบดบังอยู่หลายจุด เขาเองก็สมาธิพร่องไป เพราะได้แบ่งความสนใจไปสอดส่ายหาที่จอดรถ วิธีนี้ถือว่าเป็นธรรมดาด้วยกันทั้งคู่
อย่าลืมว่าอุบัติเหตุไม่เลือกสถานที่ รอบคอบไว้ก่อนนั่นแหละดี ฝึกใช้ให้ติดเป็นนิสัย จะมีคุณในบั้นปลาย