“คุณอาจไม่เชื่อว่าเบาะนั่งขับนั้น วิศวกรผู้ผลิตรถด้านความปลอดภัยจัดให้เป็นอุปกรณ์ประเภทป้องกันอุบัติเหตุ ซึ่งมีความสำคัญและศักดิ์ศรีสูงกว่าอุปกรณ์ประเภทลดความร้ายแรงอื่นเมื่อเกิดอุบัติเหตุ แต่เหตุไฉนผู้ขับขี่จึงไม่ค่อยสนใจไยดีที่จะนั่งให้ถูก ท่านั่งที่ไม่ถูกตามหลักจะมีผลต่อการควบคุมรถเมื่อมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้นประการหนึ่ง และยังทำให้ปวดหลังปวดไหล่เมื่อขับไปนาน ๆ อีกประการหนึ่งประการต่อมาคือ มันทำให้เหน็ดเหนื่อยอ่อนล้าเร็วกว่าที่ควร ผลที่ตามมาคือ ทำให้ประสาทสั่งการช้าลง นั่นหมายถึงการเพิ่มระยะหยุดรถและการตัดสินใจช้าลงไปด้วย มันเป็นเรื่องจริงอีกเหมือนกันที่คนไม่ค่อยจะคำนึงถึง” นั่งอย่างไร ถ้าจะนั่งให้ถูกวิธี
1. ก่อนอื่นนั่งให้ก้นชิดเบาะ และเข้าซอกระหว่างเบาะนั่งกับเบาะพิง ไหล่พิงเบาะตอนบน เหยียดคู่แขนโดยไม่จับพวงมาลัย ให้คอแขนพอีดักบวงพวงมาลัย เอยู่ในตำแหน่งเหยียบเบรก เหยียบคลัตช์ได้คล่องแคล่วว่องไว และเหยียบเบรกได้หนักแน่นเมื่อมีเหตุฉุกเฉิน หลังไม่งอหรือเอนไปข้างหลังมากๆ คุณจะไม่ปวดหลังเพราะการถ่ายน้ำหนักลงสู่ “บั้นท้าย” ถูกต้องตามสุขลักษณะไม่เครียดด้วย รวมทั้งประสาทสั่งการจะดีและว่องไว
2. การนั่งในตำแหน่งที่ถูกต้อง ทำให้คุณสามารถควบคุมรถได้ดี ประการแรก มุมองศาความงอของแขนที่พอดีจะทำให้หมุนพวงมาลัยได้แม่ยำ ในช่วงวิกฤตที่ต้องกระชากหักหลบหนีภัย ถ้าตัวหรือก้นของผู้ขับขี่เกิดลื่นหรือไถลในช่วงนี้ รับประกันได้เลย ไม่มีทางปลอดภัย
ทีมวิทยากรด้านพัฒนาการขับขี่ปลอดภัยของบริษัทผู้ผลิตรถยุโรปรายใหญ่รายหนึ่ง ได้สรุปหลังจากตระเวนทำหลักสูตรขับปลอดภัยมาทั่วโลกกล่าวว่า กว่าร้อยละ 90 ของผู้ขับขี่ที่พบ ยังนั่งขับรถกันผิด ๆ และส่วนมากก็ไม่ค่อยมีสอนกันในโรงเรียน คุณเองล่ะครับ นั่งอย่างไรแบบไหน หากถูกต้องแล้วก็รักษาแบบที่คุณนั่งนั้นต่อไป หากไม่ใช่ ลองเปลี่ยนให้ถูก แล้วก็ลืมท่านั่งแบบรถแข่งหรือแบบหน้าฝากอิงกระจก คิดก่อนก็แล้วกันหากคิดได้เมื่อใด ลงมือเลย
