“ทุกขลาภ” คือสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับคนทุกคนอย่างไม่คาดคิด การซื้อรถมือสองด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเอง หรือใครคนอื่นจะซื้อให้ก็ตาม ก็เปรียบเสมือนตนเองมีลาภที่มีแขนขาในการเดินทาง ที่ไม่ต้องลำบาก ตากแดดตากฝน แออัดอยู่ในรถเมล์ หรืออยู่กับรถแท็กซี่ราคาแพง ลาภนั้นก็นำทุกข์มาให้เสมอ ไม่ว่าค่าซ่อม ค่าน้ำมัน และที่แย่ที่สุดคือเอาคดีความมาให้ ทั้งที่เจ้าของรถก่อเองโดยรู้ตัวและไม่รู้ตัว แต่ส่วนใหญ่มักจะทำให้เสียทรัพย์ เข้าไปเกี่ยวกันกับความผิดทางกฎหมาย การซื้อรถมือสองควรรู้ทันและป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเหล่านี้ เพราะคุณจะกลายเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบ
ดาวน์รถ กลายเป็น “ดาวโจร”
ในการขายดาวน์รถยนต์ เกิดปัญหากับผู้เช่าซื้อมากมายหลายประการ เพราะรถอยู่ในระหว่างการผ่อนชำระค่าซื้อกับสถาบันการเงินแต่ผู้เช่าซื้อผ่อนไม่ไหว มักจะเอารถไปขายเต็นท์ ที่เรียกว่า “ขายดาวน์” โดยมีเงื่อนไขให้ผู้ซื้อไปผ่อนชำระต่อกับสถาบันการเงินเอง แต่ผลปรากฏว่า
-ผู้ซื้อดาวน์ไม่ยอมผ่อนต่อ
-นำรถไปขายต่อให้กับบุคคลภายนอก
-ไม่ได้เปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อจากผู้เช่าซื้อคนเดิม เป็นผู้เช่าซื้อคนใหม่
บริษัทไฟแนนซ์ยกเลิกสัญญาและเรียกให้ส่งมอบรถคืน แต่ผู้เช่าซื้อไม่สามารถส่งมอบได้ เพราะเนื่องจากผู้ที่ซื้อรถต่อไปนั้นนำรถไปขายต่ออีกทีและตามตัวไม่ได้จึงไม่ต่างจากอาชญากรรม ผู้เช่าซื้อจึงตกเป็นจำเลยฐานยักยอกทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 ซึ่งมีโทษจำคุก 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ในคดีเช่นนี้มีมากกว่านี้ คือ ต้องชดใช้ค่ารถต่อไปจนหมดจึงเป็นทุกข์ที่เกิดขึ้นโดยที่ตนไม่ได้ก่อ
ดังนั้นการขายดาวน์ที่ถูกต้อง จึงต้องแจ้งให้กับบริษัทไฟแนนซ์ทราบและนัดหมายผู้เช่าซื้อไปทำเรื่องเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อจากเดิมเป็นผู้เช่าซื้อรายใหม่ให้ถูกต้องตามกฎหมาย
ซื้อรถราคาถูกมีสิทธิ์ติดคุกได้
ในกรณีนี้คือลูกค้าไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ว่ารถที่ตนเองซื้อมานั้น เป็นรถที่ถูกขโมยมา หรือเป็นรถที่ใช้ก่ออาชญากรรมจึงเข้าข่ายรับซื้อของโจร ปอ.มาตรา 357
ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งทรัพย์อันได้มาโดยการกระทำความผิด ถ้าความผิดนั้น เข้าลักษณะ ลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ กรรโชก รีดเอาทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ฉ้อโกง ยักยอก หรือเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานรับของโจร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าการกระทำความผิดฐานรับของโจรนั้น ได้กระทำเพื่อค้ากำไรหรือได้กระทำต่อทรัพย์อันได้มาโดยการลักทรัพย์ตามมาตรา 335 (10) ชิงทรัพย์หรือปล้นทรัพย์ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่หกเดือนถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงสองหมื่นบาท
ถ้าการกระทำความผิดฐานรับของโจรนั้น ได้กระทำต่อทรัพย์อันได้มาโดยการลักทรัพย์ตามมาตรา 335 ทวิ การชิงทรัพย์ตามมาตรา 339 ทวิ หรือการปล้นทรัพย์ตามมาตรา 340 ทวิ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงสามหมื่นบาท
ดังนั้นเมื่อทราบว่า รถประเภทนี้จะมีราคาถูกกว่าท้องตลาดมาก ๆ และอาจมีการสวมทะเบียนมาอีกต่อหนึ่งจึงเป็นอันตราย เสี่ยงที่ผู้ซื้อมีสิทธิ์รับซื้อของโจรอย่างมาก จึงต้องตรวจสอบหรือสอบถามประวัติความเป็นมา ความเป็นเจ้าของที่แท้จริงว่ามีเอกสารสิทธิ์กำกับหรือไม่
ซื้อรถมือสองจากต่างประเทศอาจถูกหลอกสูญเงิน ไม่มีใครรับผิดชอบได้
หลาย ๆ คนถูกโจรรถมือสองที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากญี่ปุ่น เป็นรถเล็ก ๆ ขนาดน่ารัก ๆ แต่รถเหล่านี้จะละเลยจดทะเบียนไม่ได้ รถประเภทนี้เอกสารที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญ รถมือสองในต่างประเทศนั้น ถูกกว่ารถมือสองบ้านเราแยะแต่เมื่อหาข้อมูลดีๆ จะพบว่ามีข้อจำกัดหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องของคุณสมบัติและเรื่องภาษี หากไม่มีภาษีนำเข้า แต่ก็มีเต็นท์รถขี้โกง เล่นกับความอยากได้ของคน ด้วยการสวมทะเบียน หรือหมกเม็ด ทำใบอินวอยด์ปลอม ดังนั้นก่อนจะทำการซื้อขายต้องพิจารณาคุณสมบัติผู้ที่จะนำรถยนต์นั่งส่วนบุคคลใช้แล้ว เข้ามาในราชอาณาจักร
-ต้องเป็นผู้ที่พำนักอยู่ในประเทศนั้น ๆ เป็นเวลาเกิน 1 ปี 6 เดือน แล้วเดินทางกลับและนำเข้าได้คนละ 1 คัน
-ต้องถือกรรมสิทธิ์รถตามทะเบียนระหว่างอยู่ในต่างประเทศไม่น้อยกว่า 1 ปี 6 เดือน
-ต้องมีใบขับขี่ที่แสดงว่าได้ใช้รถมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี 6 เดือน
-เอกสารที่ใช้ประกอบการยื่นเรื่อง ได้แก่หนังสือเดินทางพร้อมสำเนาทะเบียนรถยนต์
-สำเนาใบขับขี่ของประเทศที่ใช้รถ หรือใบขับขี่นานาชาติ พร้อมสำเนา
-ต้องมีเอกสารแสดงการมีภูมิลำเนาในประเทศไทย สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาคำสั่งไป-กลับ
(กรณีเป็นข้าราชการ) เอกสารที่นำมาแสดงต้องเป็นต้นฉบับพร้อมสำเนา 1 ชุด หากไม่สามารถนำต้นฉบับมาแสดงได้ ให้หน่วยงานที่ออกเอกสารหรือหน่วยงานราชการของไทยที่ประจำอยู่ในประเทศนั้นรับรองสำเนาเอกสารที่นำมาแสดงแทน
กรณีเอกสารที่นำมาแสดงเป็นภาษาต่างประเทศที่มิใช่ภาษาอังกฤษให้แปลและรับรองคำแปลโดยหน่วยงานราชการ หรือสถาบันแปลเอกสารด้วย ในกรณีที่มีคนนำเข้ามาแล้ว (เต็นท์) และอยู่ในกระบวนการซื้อขาย สิ่งที่ต้องมีคือหนังสือสัญญาซื้อขาย สำเนาบัตรประชาชนผู้ขาย-ผู้ซื้อ (แล้วแต่ผู้ขายจะขอ) สำเนาทะเบียนบ้าน ใบอินวอยด์ หลักฐานของรถทุกอย่าง
ฝั่งคนขายต้องมีสำเนาเกี่ยวกับหลักฐานส่วนตัว ทะเบียนบ้านหรือถ้าเป็นร้านจำหน่ายให้เอาสำเนาการค้า หรือทะเบียนการค้าไว้ด้วยพร้อมเซ็นต์รับรองสำเนาทุกใบ รวมถึงใบสัญญาซื้อขาย เก็บไว้ประกอบหลักฐานคนละชุดและใบมอบอำนาจสำหรับเวลาโอน ถ้าไม่ใช่ชื่อคุณแต่ให้คนอื่นไปทำทะเบียนแทนให้แนบใบเอกสารให้พร้อมสำหรับเอาไปเสียภาษี สำคัญตรงใบอินวอยด์ต้องดูให้ครบ หลายคนซื้อรถมาหวังจะเอาไปทำทะเบียน แต่อินวอยด์ไม่ครบก็ไม่สามารถทำทะเบียนได้ ก็ต้องจอดทิ้งไว้ เพราะหากขับไปอาจถูกยืดได้ หรือต้องจำใจขายทิ้ง
ที่สำคัญอย่าหลงเชื่อคนขายให้มัดจำรถเพราะถ้ามีรถ แล้วก็ต้องมีใบอินวอยด์ด้วยพร้อมกับตัวรถ บางคันมีอินวอยด์เป็นสิบชุดต้องควรระวังไว้ และต้องไม่เป็นสำเนาด้วย ใบอินวอยด์นั้นประกอบด้วย
-เลขที่ทะเบียนคนนำเข้า
-โกดังหรือตู้คนเทรนเนอร์เลขที่เท่าไร วันที่เท่าไร
ซึ่งมีเต็มที่เกือบยี่สิบใบ เพื่อความแน่ใจควรติดต่อสอบถามกรมการขนส่งทางบก จะได้ใช้รถถูกกฎหมายและไม่ต้องขับแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ เพราะกลัวโดนสรรพกรมายึด
ในส่วนข้อกฎหมาย การนำเข้ายานพาหนะส่วนบุคคลแบบถาวรก็เป็นเรื่องยุ่งยากเช่นกัน รถยนต์นั่งใหม่ทุกประเภท ที่ยังไม่ได้จดทะเบียนใช้งานต่างประเทศ สามารถนำเข้าได้โดยไม่ต้องขออนุญาตจากกระทรวงพาณิชย์ และไม่จำกัดจำนวน ยกเว้นรถที่มีน้ำหนักไม่เกิน 3,500 กิโลกรัม ผู้นำเข้าต้องขอใบอนุญาตนำเข้าจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์ (สมอ.) โทรศัพท์ 0-2202-3331
ส่วนรถยนต์นั่งใช้แล้ว ต้องขออนุญาตก่อนการนำเข้าจากกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โทร 0-2547-4804 และถ้ารถมีน้ำหนักไม่เกิน 3,500 กิโลกรัม ต้องขอใบอนุญาตนำเข้าจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์ (สมอ.) ที่สำคัญคือ รถยนต์นั่งใช้แล้วจะต้องได้รับอนุญาตการนำเข้าจากกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ก่อนวันที่เรือขนส่งเข้าเทียบท่า
ช่างเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมากมาย จนหลาย ๆ คน เลิกฝันที่จะมีรถญี่ปุ่นมือสองน่ารัก ๆ ไว้ขับใช้ไปมากมายแล้วล่ะ และเมื่อมันเป็นเรื่องยุ่งยากอย่างนี้ รถมือสองจากต่างประเทศโดยเฉพาะรถญี่ปุ่น จึงมักจะตัดหัว ตัดท้าย แล้วสำแดงว่าเป็นอะไหล่ จากนั้นจึงนำเข้ามาประกอบกับรถในไทย แต่ปัญหาคือไม่ผ่านภาษีและจะเป็นรถที่สวมทะเบียน หากถูกจับได้ถูกยึดอย่างเดียว จึงไม่แนะนำ ซึ่งหลาย ๆ คนอาจเคยเปลี่ยนทะเบียนเมื่อซื้อรถมือสองมาเพราะไม่ค่อยอยากใช้ทะเบียนเดิม อาจจะกลัวถูกตามหนี้ หรือาจหนีไม่ต้องการให้ญาติพี่น้องรู้ว่าใช้รถคันนี้ รวมถึงป้ายทะเบียนอาจดูไม่เป็นมงคลไม่ชอบ รวมถึงเหตุผลอื่น ๆ
วิธีการคือไปขอเลขทะเบียนใหม่ที่ชอบได้ จากนั้นก็ทำเรื่องสลับทะเบียน มีค่าธรรมเนียมพอสมควรแต่ไม่เกินพันบาท เป็นการทำที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ว่าคุณจะเสียเงินไปทำไมล่ะ เก็บเงินไปเติมน้ำมันหรือซื้อขนมให้ลูกไม่ดีกว่าหรือ ที่กล่าวมานั้นหมายถึงการเปลี่ยนทะเบียนจริง ๆ กับกรมการขนส่งทางบก แต่ป้ายทะเบียนไม่สวยแล้วมาเปลี่ยนแบบที่จะกล่าวต่อไปนี้ หาเรื่องเสียเงิน แถมผิดกฎหมายอีกต่างหาก เช่น ซื้อกรอบป้ายทะเบียนแต่งตามคลับรถ หรือร้านประดับยนต์ ซึ่งป้ายทะเบียนพวกนี้เป็นป้ายทะเบียนยาว ป้ายทะเบียนกันน้ำ ป้ายทะเบียนเอียงไม่แนบติดตัวรถ ป้ายเหล่านี้ผิดกฎหมาย อาจโดนตำรวจโบกเรียกได้
