ค่ายดาวสามแฉก ร่วมทำดีถวายในหลวง มองเงินช่วยน้ำท่วม 2.29 ล้าน พร้อมรถยูนิม็อก U 4000 2 คัน ให้สภากาชาดไทย หวังใช้ลงพื้นที่ช่วยผู้ประสบภัยน้ำในระยะยาว เหมาะใช้งานในทุกสภาพถนน ลุยน้ำได้ 1.2 เมตร ใช้เครื่องดีเซล 4,800 ซีซี. เกียร์แบบออโตเมติกชิฟ พร้อมแชสซีสุดแกร่งทนต่อการบิดตัวได้ดี
 |
| mercedes benz unimog U 4000 |
เนื่องจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ยูนิม็ออก U 4000 เป็นรถที่มีสมรรถนะแข็งแกร่ง ที่ได้ผลิตเพื่อการใช้งานต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบรรเทาสาธารณภัย อาทิ ดับไฟป่า และบรรเทาอุทกภัยไปแล้วกว่า 380,000 คันทั่วโลก โดยเป็นรถที่เหมาะแก่การใช้งานทุกสถานการณ์ ทุกสภาพพื้นผิวถนน เข้าถึงพื้นที่ทุรกันดารได้ทุกรูปแบบ ลาดลาดชัน ป่าเขา ขึ้นดอย และสามารถลุยน้ำได้ถึง 1.2 เมตร รูปทรงเหมาะสม เดินหน้าขึ้นที่ลาดชันได้ถึง 45 องศา และเอียงข้างได้ 38 องศา
รูปลักษณ์ภายนอก จะเห็นถึงตัวถังรถที่สื่อถึงความแข็งแกร่ง ประกอบกับเพลาหน้าและเพลท้ายที่ออกแบบเพื่อให้รอบรับกับน้ำหนักจำนวนมาก โดยเพลาหน้าสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 4,000 กิโลกรัม ส่วนเพลาท้ายสามารถรองรับน้ำหนักได้ 4,600 กิโลกรัม ด้วยระบบรองรับน้ำหนักแบบคอยล์สปริง จึงมีความยืดหยุ่น แข็งแรง ทนทาน สามารถขับผ่านสิ่งกีดขวางได้อย่างดีเยี่ยม
ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบออฟโรด ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบแถวเรียง ขนาด 4,800 ซี.ซี. เทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ผลิตกำลังสูงสุดถึง 218 แรงม้า หรือ 160 กิโลวัตต์ ด้วยแรงบิดสูงสุดถึง 810 นิวตันเมตร และถังน้ำมันเชื้อเพลิงทำจากอะลูมิเนียมขนาด 160 ลิตร มาพร้อมกับระบบเกียร์แบบออโตเมติกชิฟ ที่ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมด้วยระบบเดินหน้าและถอยหลังอย่างเร็ว โดยทำความเร็วได้สูงถึง 85 km/h
ตัวเฟรมแชสซีของรถบรรทุก ยูนิม็อก U 4000 มีความแข็งแรงทนต่อการบิดตัวได้เป็นอย่างดี แม้จะผ่านการใช้งานที่สมบุกสมบัน และไม่มีผลต่อห้องโดยสารและส่วนบรรทุก โดยเหล็กแชสซีของตัวรถมีขนาดใหญ่หนาถึง 185 มิลลิเมตร ส่วนหน้ารถและส่วนบรรทุกสามารถบิดตัวได้ถึง 12 องศา ส่วนเพลาหน้าและเพลาท้ายสามารถบิดได้มาถึง 30 องศา พร้อมด้วยอุปกรณ์มาตรฐานความปลอดภัย อาทิ ที่ระบบเต็มลมและระบายลมยางจากห้องโดยสาร ระบบควบคุมแรงดันลมยาง เพื่อควบคุมให้เหมาะสมแก่การใช้งานในพื้นผิวต่าง ๆ และความปลอดภัยในการเดินทาง
