เคล็ดลับซื้อรถมือสอง รวมเทคนิคและวิธีการเลือกซื้อรถมือสอง คลิก!! More

การตรวจเช็กรถมือสองด้วยตัวคุณเอง ตอนที่ 2


สังเกตเส้นของตัวรถ
รถหลายยี่ห้อ หลายรุ่นมักจะมีเส้นสายทั้งเป็นลายสติกเกอร์ติดเอาไว้หรือเป็นเส้นของตัวรถที่นำเป็นร่อง หรือนูนออกมาโดยเฉพาะจะมองเห็นได้จากด้านข้าง

บางรุ่นบางยี่ห้อ ทำเส้นลากตั้งแต่หน้ารถไปท้ายรถ เหมือนกันทั้งฟากคนขับและคนนั่ง เมื่อไล่สายตาเทียบดู เส้นของตัวรถทั้งด้านซ้ายกับด้านขวาต้องเท่ากันและชัดเจนทั้งสองด้าน
บางเต็นท์สุกเอาเผากิน ซื้อรถที่ชนหนักมาซ่อมโดยวิธีตีเคาะเหล็กชิ้นเดิมโดยไม่เปลี่ยนเหล็กชิ้นใหม่ หากช่างไม่มีฝีมือพอ ก็จะทำให้สังเกตข้อผิดพลาดหรือข้อตำหนิได้ง่าย หลักการสังเกตแนวเส้นที่สำคัญได้แก่
-            เสาต้องได้รูปไม่บิดเบี้ยว กระจก ขอบยาง บานประตู แนบสนิทไปกับเสา หากเส้นของเสาเพี้ยนหรือคดงอ ปิดไม่สนิท ปิดไม่เหมือนบานอื่น ๆ เป็นได้ว่าที่จะถูกชนทางด้านนั้น ซึ่งกระจกอาจจะแตกทำให้ต้องเปลี่ยนกระจก
-            กระจกหน้าเป็นจุดสำคัญที่บอกได้ว่ารถเคยถูกชนมาหนักหรือไม่ ต้องดูให้รอบ ๆ กระจกว่าเส้นเพี้ยน มีความคดงอ ติดตั้งไม่สนิท หรือไม่ ต้องแนบไปเป็นแนวเดียวกับเส้นขอบหลังคา และต้องไม่มีร่องรอยยาซิลิโคนกันรั่ว
-            รถที่ผลิตออกจากโรงงานและไม่เคยเกิดอุบัติเหตุจะไม่มีลักษณะนี้หรือหากตรวจดูในรถแล้วพบกับเศษกระจกเป็นเศษสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ หลงอยู่ในช่องกระจกบริเวณคอนโซลหน้า แสดงว่าช่างเก็บงานไม่เรียบร้อยหลงเหลือเศษกระจกจากการชนจนกระจกแตกไว้เป็นหลักฐาน
-            สังเกตในส่วนพลาสติกสีดำที่อยู่ระหว่างกระจกรถกับฝากระโปรงบริเวณที่ปัดน้ำฝน ว่ามีน๊อตทุกตัวหรือไม่ หากมีครบหรือแนวเส้นขอบพลาสติกดังกล่าวแนบไปกับกระจกไม่โป่งนูน หรือประกบไม่ติดแสดงว่ารถไม่เคยเปลี่ยนกระจกมาก่อน
-            ตรวจดู “ส่วนขอบ” เช่น ขอบฝากระโปรงบิดเบี้ยวหรือไม่ รูปทรงของกันชนเป็นลอนคลื่นไม่เรียบเพราะผ่านการถอดทำสีหรือซ่อมมาแล้วจนประกอบติดไม่คงที่หรือไม่

สังเกตสีของตัวรถ
            ดูว่าตรงส่วนไหน หรือบริเวณใดของตัวรถ ที่สีแตกต่างจากบริเวณอื่น เช่นมีส่วนหนึ่งที่เป็นสีด้าน แต่พื้นผิวส่วนใหญ่ของรถมีเป็นเงา แสดงว่าตรงที่มีความด้านอาจใช้สีไม่ดีในการซ่อมสี จนต่อมาสีจึงเกิดเพี้ยนขึ้นมาดังต่อไปนี้
-            การทำสีให้รถเก่าและรถที่ชนมาแล้วแลดูสวยขึ้นด้วยวิธีการที่เรียกว่า “ย้อมแมว” ด้วยการสั่งให้อู่ที่ทำผสมทินเนอร์ในสีที่ใช้พ่นตัวถังรถมาก ๆ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความแวววาว มันเงา แต่เมื่อใช้ไปได้สักพัก ประมาณ 5-6 เดือน โดยเฉพาะรถที่ต้องจอดกลางแจ้งตากแดดตากลมเป็นเวลานาน ๆ สีจะแตกลายงา ไม่สวยงามเหมือนเดิม จนทำให้เจ้าของรถมือสองต้องกลุ้มใจและหมดเงินหมดทองไปทำสีใหม่อีกครั้ง
สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะเจ้าของเต็นท์คิดไม่ซื่อเพราะความโลภอยากให้รถสีสวยดูเหมือนใหม่ ดึงดูดใจลูกค้า จึงให้ช่างอู่ทำการย้อมแมวในราคาที่ถูกกว่าการทำสีแบบปกติ และส่วนมากมักจะนำไปจอดโชว์หน้าเต็นท์ในบริเวณที่แดดไม่จัดมาก เพราะหากจอดไว้โดนแดดสีที่ทำการย้อมแมวจะแตกลายงา เกิดปัญหาดังกล่าว
-            ในกรณีที่เป็นรถที่พ่นด้วยสีเมทัลลิก ซึ่งเป็นรถที่มีสีบรอนซ์ผสม ในการย้อมแมวหรือส่งรถที่เกิดอุบัติเหตุไปทำสีบางส่วนนั้น เป็นสิ่งที่ยากสำหรับช่างสี แม้แต่ช่างสีที่เก่ง ๆ สามารถซ่อมจนเทียบเคียงสีเดิมได้เพียง 95% เท่านั้น
หากเจ้าของรถนำไปซ่อมเองก็ไม่ต้องวิตกกังวล เพราะหากใช้งานไปนาน ๆ สีก็จะกลมกลืนเนื่องจากสภาวะต่าง ๆ เช่น แสงแดด ดิน ฟ้า อากาศ ไปเอง

แต่สำหรับผู้ที่กำลังจะซื้อรถมือสอง นี่เป็นวิธีสังเกตได้อย่างง่าย ๆ และดีเยี่ยม เพราะจะเห็นความแตกต่างได้แม้ช่างจะมีฝีมือมากเพียงใดก็ตาม ดังนั้นจึงเตรียมรับกับสารพัดข้ออ้างของเต็นท์รถที่จะหลอกล่อคุณให้ดี

การสังเกตสีบริเวณขอบบังโคลนก็มีประโยชน์ด้วยเช่นกัน ลองบีบดูที่ขอบบังโคลนควรมีความหนาไม่เกินกว่า 3-4 มิลลิเมตร ส่วนบังโคลนด้านในประมาณ 1.5 มิลลิเมตร หากเกินกว่านี้มาก ๆ แสดงว่าถูกโป๊วสีมาแล้ว
อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีการบริการใหม่เกิดขึ้น นั่นก็คือ
บริการให้เช่าเครื่องตรวจสอบรถด้วยเครื่องตรวจวัดความหนาของสีรถยนต์ (Automotive Paint Inspection) เพื่อให้ผู้ซื้อได้ตรวจสอบสภาพรถยนต์ว่า ผ่านการทำสีจากการชน หรือเกิดอุบัติเหตุมาแล้วหรือไม่

ในการตรวจสอบนี้ ร้านที่ดำเนินงานจะใช้เครื่อง Coating Thickness Gauge ซึ่งเป็นเครื่องมือวัดค่าความหนาของสีที่พ่นกับผิวเหล็ก การตรวจสอบจะครอบคลุมเฉพาะตัวถังภายในและนอกทุกจุดที่เป็นเหล็กเท่านั้น โดยมีการอ้างอิงว่า โดยปกติรถยนต์ที่ออกจากโรงงานผลิตความหนามีมาตรฐานที่พ่นจะมีค่าระหว่าง 100-120 ไมครอน จึงสามารถตรวจสอบรถได้หลากหลาย พร้อมกับความแม่นยำ เช่น
                        -ตรวจสอบสีของรถเต็นท์ รถบ้านที่มีอุบัติเหตุหรือชนได้ความแม่นยำ 99.97%
                        -ตรวจสอบรถใหม่ป้ายแดงออกห้างได้ความแม่นยำ 99.97% ซึ่งระบบการเคาะโดยใช้ประสาทสัมผัสหูของช่างผู้ชำนาญให้ผลแม่นยำเพียง 60-70%

            บริการนี้อ้างว่า คิดบริการเช่าเป็นรายวัน เฉพาะในกรุงเทพฯและปริมณฑล และรับประกันความพอใจยินดีคืนเงินเต็มจำนวนหากพบความผิดปกติที่เกิดจากการวัดของเครื่อง ซึ่งผ่านการสอบเทียบสม่ำเสมอแต่จะเป็นอย่างไรนั้นขอให้หาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตด้วยตัวเอง เดี๋ยวจะกลายเป็นการค้าไปเสียนี่ แต่อย่างไรก็ควรใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ

บทความรถยนต์ที่เกี่ยวข้อง

บทความรถยนต์ที่น่าสนใจ