เทคนิครถยนต์: ดัดแปลงระบบเบรกระวังไม่จบง่าย ๆ
เทคนิครถยนต์: รถยนต์ไม่เพียงแต่ต้องพัฒนาให้แรงเร็วและดูแลให้ทะยานไปได้ ระบบเบรกเพื่อช่วยหยุดหรือชะลอความเร็วก็ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญเป็นอย่างยิ่ง และจะต้องได้รับการดูแลปรับแต่งควบคู่กันเสมอ แล่นได้ต้องหยุดได้ คิดจะแต่งรถทั้งที ต้องคำนึงอีกสิ่งก็คือ หยุด และต้อง “หยุดให้อยู่” ด้วย บางคนคิดว่าเอาเครื่องให้แรง ๆ ไว้ก่อน ส่วยเบรกเดี๋ยวค่อยเก็บเงินทำทีหลัง ผลแรงจริง ๆ แต่ “มิส” ไปแล้ว จะทำเบรกสักหน่อยแต่กลับต้องเปลี่ยนเป็นทำสีทั้งคันบางคนบอกเบรกอยู่ดีแล้ว ไม่เคยมีปัญหาแต่พอซัด ๆ เบรก ๆ บ่อย ๆ เข้าเหยียบเบรกอีกที ตายล่ะ เบรกหายไปซะงั้น
เทคนิครถยนต์: คราวนี้เรามาทำความเข้าใจเรื่องระบบเบรกกันก่อนดีกว่าว่าถ้ามีการโมดิฟายเบรกแล้วมีปัญหาต่าง ๆ ย่อมเกิดขึ้นมาได้โดยไม่คิดคิด หรือที่เรียกกันติดปากว่า “ไม่จบ” นั่นแหล่ะ ดังนั้นควรเข้าใจในเรื่องการดุแลรักษาระบบเบรกแล้วพิจารณาว่ากรโมดิฟายระบบเบรคให้ดีขึ้นควรเริ่มต้นที่จุดใด และเขามีวิธีการโมดิฟายอย่างไรกันบ้าง
ทุกชิ้นส่วนของระบบเบรกมีความสำคัญเท่ากันแต่ผู้ใช้รถบางกลุ่มจะไม่พอใจในประสิทธิภาพเดิม ๆ ของระบบเบรคที่ติดตั้งมาจากโรงงาน หรือต้องการ “ทำ” ให้ระบบเบรกมีประสิทธิภาพดีขึ้นให้รับกับความแรงที่เพิ่มขึ้น จึงมีการโมดิฟายเพิ่มเติมด้วยวิธีที่ถูกบ้างผิดบ้าง น้อยไปบ้างมากไปบ้าง เราจึงหยิบยกตัวอย่างการโมดิฟายและปัญหาที่จะตามมาให้อ่านประกอบการตัดสินใจสำหรับผู้ที่มีความคิดจะโมดิฟายระบบเบรคของรถคู่ใจ โมดิฟายเบรกหลากหลายวิธี
ถ้าคิดว่าการใช้งานเบรกของเรามันรุนแรงเกินกว่าเบรกธรรมดาจะรับแรง “ตึ๊บ” ของเราได้แล้ว ควารทำอย่างไรและการโมดิฟายควรเริ่มต้นโมกันจุดใด มีวิธีอย่างไหนบ้าง
เทคนิครถยนต์: เปลี่ยนผ้าเบรกใหม่ เป็นวิธีแรกที่นักซิ่งเริ่มทำกันเมื่อรู้สึกว่าเริ่มจะเบรกไม่อยู่ คือการหาผ้าเบรกเกรดที่ดีกว่ามาใช้แทน ผ้าเบรกที่เกรดสูงกว่ามาตรฐาน OEM จากโรงงาน คือผ้าเบรกที่มีคุณสมบัติทนความร้อนสูงขึ้นและมีความฝืดสูงจำพวก Semi Metallic ที่มีส่วนผสมของพวก Organic , Sinter Metal , ไฟเบอร์ , ผลอลูมิเนียม และผงทองแดง พวกนี้จะมีแรงฝืดที่อุณหภูมิสูง คือตอนจานเบรกร้อนจะจับตัวดีแต่หากจานเบรกเย็น จะลื่น ๆ เบรกไม่ค่อยอยู่
เทคนิครถยนต์: เปลี่ยนเบรกหลังเป็นดิสค์เบรก สำหรับรถที่เบรกหลังเป็นระบบดรัมเบรกการเปลี่ยนให้เป็นดิสค์เบรคจะเป็นทางเลือกที่ดี ส่วนมากนิยมซื้อชุดดิสค์เบรกจากเซียงกงเป็นของเก่าญี่ปุ่นตรงรุ่นมาใส่ การเลือกซื้อชุดดิสค์เบรกควรเลือกให้ตรงรุ่นกับรถที่ใช้อยู่ จุดยึดต่าง ๆ ต้องเหมือนกัน สายเบรกมือต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ไม่ขาดหาย จานดิสค์เบรกยังหนา ไม่มีริ้วรอย ผ้าเบรคยังหนาใช้ได้อีกนาน สายอ่อนเบรกไม่แตกร้าว และคานปีกนกที่ติดมาต้องไม่บิดเบี้ยวเพราะการกระแทกหรือเกิดการชน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเปลี่ยนดิสค์เบรกหลัง คือต้องเปลี่บนดิสค์เบรกหน้าให้โตขึ้นตามขนาดของรถที่เราหยิบดิสค์เบรคหลังของเขามา รุ่นที่เป็นดิสค์เบรกหลัง สังเกตได้ว่าดิสค์เบรกหน้าจะโตกว่ารุ่นดรัมเบรก จึงควรหาดิสค์เบรกหน้ามาใส่ให้ตรงรุ่น ไม่งั้นแรงจับหลังอาจมีมากกว่าจนเกิดอาการ “ท้ายปัด” ได้ ส่วนผู้ที่เปลี่ยนดิสค์เบรกหลังแล้วรู้สึกว่าเบรกไม่อยู่ จานเบรกหลังไม่จับ ส่วนมากมักเกิดจากวาล์วลดแรงดันน้ำมันเบรคซึ่งเป็นวงจรลดแรงดันน้ำมันที่จะไปสู่ล้อหลังต้องเปลี่ยนใหม่ให้ตรงกับรถรุ่นที่เป็นดิสค์เบรคหลัง
เทคนิครถยนต์: เปลี่ยนหม้อลมเบรกให้ใหญ่ขึ้น มีคนเป็นจำนวนมากที่คิดว่าหม้อลมเบรกใหญ่จะทำให้เบรกอยู่ดีขึ้น แต่จริง ๆ แล้วหม้อลมเบรกทำหน้าที่ในการช่วยผ่อนแรงเท้าที่เหยียบเบรคเท่านั้น ขนาดของหม้อลมจะมีความสัมพันธ์กับน้ำหนักรถ แรงดูดสุญญากาศกับเครื่องยนต์ ความแรงของเครื่องยนต์การเลือกซื้อหม้อลมควรจะเลือกให้โตขึ้นอีกนิดหน่อย เช่นเป็นหม้อลมแบบชั้นครึ่ง พวกนี้จะมีเนื้อที่เก็บแรงดูดสุญญากาศไว้ช่วยในการเหยียบเบรกได้หลาย ๆ ครั้ง ส่วนการเปลี่ยนหม้อลมที่มีขนาดใหญ่เกินไป แค่เหยียบเบรกเบา ๆ ล้อก็เกิดอาการล็อค ซึ่งถือว่าอันตรายมาก หรือหากแรงดุดของเครื่องไม่พอ ก็เกิดอาการเบรกตื้อได้ วิธีดูหม้อลมให้ได้ของดีต้องไม่มีรอยบุบ ลองกดขา และใช้นิ้วอุดท่อลมดู ต้องไม่มีอาการรั่วหรือมีเสียงดัง แม่ปั๊มเบรกไม่มีน้ำมันรั่ว หรือมีน้ำมันเบรกค้างอยู่ในหม้อลม สากเบรกที่ตัดต่อต้องมีความแข็งแรงพอ
เปลี่ยนจานเบรกให้ขนาดโต เรื่องนี้เป็นเรื่องยอดฮิตของขาซิ่งบ้านเราชอบกันจริง จานเบรคใหญ่ขึ้นถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด จานเบรกขนาดหใญ่จะทำให้เนื้อที่จานเบรกมีขนาดมากขึ้น สามารถใช้ผ้าเบรกที่มีขนาดกว้างขึ้น แรงฝืดจึงสูงกว่า และจานเบรกโต ๆ จะทำให้มีเนื้อที่ระบายความร้อนได้มากขึ้น ระบายความร้อนได้เร็วจานเบรกยิ่งโตขึ้นเท่าไหร่ยิ่งสามารถลดรอบการหมุนของล้อได้เร็วขึ้น ออกแรงน้อยลง เป็นลักษณะการผ่อนแรงในระบบคาน แรงเบรคที่วงนอกสุดจะออกแรงน้อยกว่าแรงเบรคที่อยู่ในวงในสุด คล้ายกับเบรคก้ามปูของจักรยานที่จับบนขอบล้อจะลดรอบได้เร็วกว่า การเลือกซื้อให้เลือกของรถรุ่นที่ไม่ต้องดัดแปลง เช่นตระกูล NISSAN นิยมใช้ของ Skyline R 31 – R 33 แม่ปั๊ม 4 Pot ถือว่าคุ้มค่า ราคาตั้งแต่ 3,500 บาทขึ้นไปหรือพวก S 14 หรือถ้าเป็น TOYOTA ก็จะเป็นพวก Celica GT-4 หรือพวก MITSUBISHI ก็คือพวกตระกูล Evo ต่าง ๆ นั่นเอง
เทคนิครถยนต์: เปลี่ยนไม่ได้ก็ต้องแปลง สำหรับรถที่ต้องดัดแปลงจากระบบดิสค์เบรกรุ่นอื่นยี่ห้ออื่น การดัดแปลงทำได้หลายวิธีเช่น กลึงดุม และเจาะรูจานเบรกให้พอดีกับรูของล้อ หรือสร้างอะแด๊ปเตอร์มาเสริมให้ใส่จานเบรกได้พอดี ส่วนการยึดคาลิเปอร์เบรกถือว่าเป็นส่วนที่สำคัญมากที่สุด การดัดแปลงจุดยึดคาลิเปอร์ควรใช้ระบบการสร้างอะแด๊ปเตอร์ ใช้เหล็กที่มีความหนาหรืออลูมิเนียมเกรดสูงมาสร้าง เจาะรูยึดน็อตติดกับรูคาลิเปอร์เดิม ส่วนการตัดหูยึดคาลิเปอร์เดิมแล้วสร้างเหล็กมาตัดเชื่อมถือว่าไม่ปลอดภัยเพราะหูยึดคาลิเปอร์เก่าติดดุมจะเป็นเหล็กหล่อ ส่วนหูยึดคาลิเปอร์ใหม่ที่สร้างขึ้นนิยมใช้เหล็กเหียวตัดเป็นหูและเชื่อมติดกัน วิธีนี้จะทำให้เหล็กหล่อที่ได้รับความร้อนในการเชื่อมเกิดความเปราะแตกร้าวง่าย ลวดเชื่อมคุณภาพต่ำไม่สามารถประสานรอยเชื่อมได้ดี
เทคนิครถยนต์: การเจาะรูและเซาะร่องจานเบรก รุบนจานเบรกทำหน้าที่ระบายความร้อนของผ้าเบรคและจานเบรคในระหว่างใช้งานซึ่งจะมีอุณหภูมิสูง ความร้อนระหว่างผ้าและจานจะเกิดเป็นไอความร้อนในรูปของแก๊สกั้นอยู่ระหว่างผ้าเบรกและจานเบรก การเจาะรูจึงช่วยในการระบายความร้อนและแก๊สให้ผ่านรูเล็ก ๆ ออกไป ส่วนร่องจานเบรกทำหน้าที่กวาดฝุ่นผงของผ้าเบรคให้หลุดออกได้ง่ายขึ้น เป็นการช่วยทำความสะอาดผ้าเบรกไปในตัวเท่านั้นเอง สำหรับจานเบรกซิ่งส่วนมากจะมีการเจาะรุและเซาะร่องมาจากโรงงานแล้ว แต่จานเบรกแบบโรงงานก็สามารถนำมาเจาะรูได้ โดยการเจาะรูต้องมีการคำนวณระยะห่างให้เหมาะสมด้วย การเจาะรูจานเบรกแม้จะช่วยในการระบายความร้อนแต่ในขณะเดียวกันก็เป็นจุดอ่อนทำให้จานเบรกเกิดการแตกร้าวได้ง่าย ๆ ดังนั้นจึงไม่ควรเจาะรูให้ถี่มากเกินไปหรือจะเอาจานเดิมไปเซาะร่องก็ถือว่าเพียงพอแล้วแถมยังง่ายต่อการดูแลอีกด้วย
เทคนิครถยนต์: การโมดิฟายระบบเบรกยังมีอีกมากหลายวิธี แค่ยกตัวอย่างมาให้พอเข้าใจแต่ที่สำคัญควรศึกษาให้ดีเสียก่อนว่าควรโมดิฟายในจุดใดบ้างของระบบเบรค เพราะทุกส่วนนั้นทำงานสัมพันธ์กันทั้งหมด อย่าปล่อยให้สปีดช็อปประดังประเดของแต่งมาให้ท่านอย่างเกินความจำเป็น และในขณะเดียวกันก็อย่ามองข้ามความปลอดภัย มัวไปสนใจกันแต่เฉพาะความแรง รถใช้ความเร็วสูงย่อมหยุดยาก ถ้าหยุดไม่ได้แล้ว ย่อมเสียหายมาก ฝากไวด้วยครับ